นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลในเบื้องต้นว่า คงจะมีการรวมเสียงฝ่ายค้านเดิม คือ พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ และพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งคาดว่าจะได้เสียง 308 เสียง เพื่อให้รัฐบาลเกิดเสถียรภาพ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค จะมีการแถลงอีกครั้งในช่วงเที่ยงวันนี้ และมั่นใจว่า ส.ว.ทั้ง 250 เสียง จะไม่สวนกระแส
"เบื้องต้นในมุมของก้าวไกลคิดว่าพอแค่นี้ เคยแสดงความคิดเห็นว่าถ้าเพื่อไทยและก้าวไกลได้รวมกันเกิน 300 เสียง แล้วพรรครัฐบาลเก่าไม่มีใครได้ถึงร้อยเลย ก็เชื่อว่า ส.ว.ไม่น่าจะสวนกระแสของประชาชน ไม่ใช่การวัดใจ ส.ว." นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวว่า เนื่องจากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมาดึกเกินไป ทำให้ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานติดต่อไปยังพรรคการเมืองใด แต่นายพิธา ได้ส่งข้อความไปหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่ยังไม่ได้ตอบกลับมา ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยหลังจากนายพิธาแถลงข่าวแล้วเชื่อว่าจะได้โทรศัพท์พูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปว่า ส.ว.อาจงดลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีหากมีการเสนอชื่อนายพิธา ส่งผลให้ต้องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะตนเชื่อว่าจะมี ส.ว.ที่ไม่อยากถูกมองว่าเป็นปัญหาหรือเป็นจำเลยสังคม และไม่เชื่อว่าจะมีสมการทางการเมืองไหนที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเท่าทั้งสองพรรคที่ได้เกือบ 300 เสียงแล้วจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล ส่วนรายละเอียดนั้นคงต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นก่อน
สำหรับการแบ่งโควต้ากระทรวงนั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงในเอ็มโอยูที่จะมีการเจรจาต่อรองกัน เพราะแต่ละพรรคก็มีนโยบายเศรษฐกิจของตัวเอง คงจะต้องพิจารณาในหลายมิติว่าจะผลักดันอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องของงบประมาณ ซึ่งคงจะใช้นโยบายของพรรคก้าวไกลเป็นหลัก แต่ยังไม่รู้ว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยต้องการผลักดันจะมีเรื่องใดบ้าง ส่วนการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัลที่ใช้งบประมาณจำนวนมากน่าจะนำไปใช้ผลักดันนโยบายเศรษฐกิจอื่นจะเกิดประโยชน์มากกว่า