นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ทวิตข้อความเรียกร้องให้หลายพรรค (ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์) ที่ก่อนหน้านี้เคยแสดงจุดยืนว่าไม่สนับสนุนรัฐธรรมนูญ ปี 60 ที่ให้อำนาจ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ ทำตามจุดยืนในการโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่พรรคก้าวไกลเสนอ ซึ่งคือ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามกติการะบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องรอให้ ส.ว. 250 คนต้องออกเสียง
พรรคก้าวไกล โตขึ้นมาจาก 81 คนในปี 62 มาเป็น 152 ในปี 66 (เลขล่าสุด) เลขจำนวน ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลได้ เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนว่าอุดมการณ์ แนวทางของพวกเขา ได้รับฉันทามติของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง เป็นปรากฏการณ์ที่ผมคิดว่าปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของสังคมไทย
"สปิริตทางการเมือง ที่ผมหวังให้มีที่สุดในตอนนี้ คือการเห็นทุกพรรคการเมืองไทย ยึดโยงและทำตามเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ที่ในเร็ว ๆ นี้ จะมีการเสนอและโหวตนายกรัฐมนตรี และผมเองก็สนับสนุนให้คุณพิธา จากพรรคก้าวไกล ได้รับตำแหน่งอย่างสง่างามอย่างเต็มภาคภูมิ"
นายเศรษฐา ระบุว่า ทุกสิ่งอย่างที่พรรคทำ จะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในอนาคต การเพิกเฉยต่อหน้าที่เหล่านี้ มีราคาแพงที่ต้องจ่ายในอนาคต