นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการออกมา เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ได้ไปให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ยังอารมณ์ดี ไม่มีความเครียด ต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนความชัดเจนอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น นายธนกร กล่าวว่า สุดท้ายแล้วเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงจะวางมือและพักผ่อน เพราะนายกรัฐมนตรีทำงานให้ประเทศมายาวนาน ตั้งแต่รับราชการทหาร และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ก็ได้สร้างคุณประโยชน์ ความดีให้กับประเทศมากมาย เชื่อว่าประชาชนได้เห็นกับสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำมาตลอด ไม่ว่าอย่างไรท่านก็จะอยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ
"ความเห็นส่วนตัวผม ท่านได้พักก็ดี ท่านไม่ได้ไปไหนเลย ตลอดเวลา 7-8 ปี ผมเองก็จะได้มีโอกาสชวนท่านไปพักผ่อนบ้าง ผมเองยังอยู่ในเส้นทางการเมือง มีอะไรก็คงไปปรึกษาท่าน" นายธนกร กล่าว
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จะลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น นายธนกร กล่าวว่า ไม่มั่นใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร พรรครวมไทยสร้างชาติก็คงต้องอยู่ต่อไป เพราะมี ส.ส.ถึง 36 คน การทำงานในพรรค หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคยังสามารถทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา สามารถไปทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลได้
สำหรับการจัดตั้งรัฐบาล 310 เสียง ถือว่ามีความเข้มแข็งพอหรือไม่นั้น นายธนกร ระบุว่า รัฐบาล 300 กว่าเสียงก็ถือว่าไปได้ แต่ตนวิเคราะห์ว่า ขณะนี้ยังพอมีเวลา เพราะพรรคเพื่อไทยแพ้ไปเพียง 10 เสียง ดังนั้นพรรคเพื่อไทย คงจะให้โอกาสพรรคก้าวไกลที่มีคะแนนสูงสุดได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งหากไม่สามารถตั้งได้ พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 2 จึงค่อยจัดตั้งรัฐบาล
"ตอนนี้ ยังพอมีเวลา พรรคเพื่อไทยแพ้แค่ 10 เสียงเอง เขาคงให้โอกาสพรรคที่ชนะก่อน เพราะถ้าตั้งไม่ได้ พรรคอันดับ 2 ก็จัดตั้งได้ เชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องคิดไปถึงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศ เขาไม่น่าจะไปสุด ซึ่งยังมีเวลาอีก 2-3 เดือนในการจัดตั้งรัฐบาล" นายธนกร ระบุ
อย่างไรก็ดี ไม่ขอไปก้าวล่วงพรรคเพื่อไทยในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มี 36 เสียง พร้อมจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน
ส่วนกระแสขอให้พรรคการเมืองสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีมีความเป็นไปได้หรือไม่นายธนกร ถามกลับว่า ทำไมตนต้องยกมือให้ ในเมื่อตนเป็นหนึ่งใน 36 เสียงที่ไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่แรก เพียงแต่ตนยอมรับคะแนนเสียงจากประชาชน
"ท่านก็ตั้ง(รัฐบาล)ให้ได้ก็แล้วกัน ผมก็คิดว่าท่านก็ตั้งได้ แต่สุดท้ายจะได้หรือไม่ได้ อีก 2-3 เดือนก็รู้ ที่ผ่านมา พรรคพวกฝ่ายค้านก็สามารถตั้งได้ ถ้าพรรคอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ พรรคอันดับ 2 ใครรวมเสียงข้างมากได้ ก็ตั้งรัฐบาลไป" นายธนกร กล่าว
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่มีคะแนนอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปร่วมหรือไม่นั้น นายธนกร ระบุว่า คงไม่สามารถพูดแทนคนในพรรคได้ แต่ก็คิดว่าพรรคที่ได้อันดับ 2 มีโอกาสจะตั้งรัฐบาล เพราะจากที่ดูแถลงการณ์ต่างๆ ยังไม่เห็นชัดเจนว่าจะไปด้วยกันได้ ต้องดูเงื่อนไขและ MOU ก่อน เพราะถ้าเงื่อนไขและ MOU ไปด้วยกันไม่ได้ แล้วจะไปต่อได้อย่างไร แต่ขอย้ำว่าตนไม่ขอไปก้าวล่วงฝ่ายที่มีเสียงข้างมาก
นายธนกร ยังได้ฝากว่าการจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น จึงอยากเห็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ควรพูดจาเหน็บแนม หรือกระแนะกระแหนผู้ใหญ่ของบ้านเมือง พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านและให้เกียรติว่าที่รัฐบาล ไม่ควรสร้างวาทกรรมให้เกิดความขัดแย้ง เพราะฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลสามารถทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่มีคนละบทบาทหน้าที่
"ก็รอให้เขาจัดตั้งไปก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ส.ว.ก็มีอิสระของท่าน อย่าไปดูแคลนท่านมากเกินไป ส.ว. ท่านก็มีหัวจิตหัวใจ บางทีไปดูแคลนเขามากเกินไป แล้วอยู่ๆ จะให้เขาช่วยโหวตให้ ผมคิดว่า มันก็ต้องดู" นายธนกร กล่าว