นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 16.00 น. จะมีการประชุมว่าที่ ส.ส.ของพรรค รทสช. ที่ได้รับเลือกทั้ง 36 คน ส่วนทิศทางของพรรคในอนาคต คิดว่าพรรค รทสช.ยังไปได้แต่อาจจะต้องรีแบรนด์ดิ้งพรรค ใช้ความรู้ความสามารถของคนทุกรุ่น ส่วนความเป็นไปได้ที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคนั้น คงเป็นเรื่องในอนาคต แต่ตนได้เสนอให้พรรคปรับตัว เพื่อให้ก้าวทันกับยุคใหม่
สำหรับสาเหตุที่พรรคไม่ได้ ส.ส.ตามเป้านั้น ส่วนหนึ่งมาจากการแยกออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คงมีหลายเรื่อง ตรงนี้อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง มีองค์ประกอบหลากหลาย ในส่วนที่เป็นบวกก็มี หรือในส่วนที่เราชนะการเลือกตั้งก็มีหลายพื้นที่ ซึ่งหลายอย่างก็ต้องปรับปรุง และปรับตัว
นายธนกร กล่าวต่อว่า วันนี้ได้เห็นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งตนก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่จะได้เข้ามาบริหารบ้านเมืองตามนโยบาย พร้อมขอฝากไปยังพรรคก้าวไกล ให้ว่าที่ ส.ส.หลายคน หยุดพฤติกรรมโพสต์ข่มขู่ ด่าทอ กดดัน ส.ว. ในเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย
"ผมพูดมา 2 วันแล้ว ว่าควรหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะท่านจะต้องไปขอเสียงจากเขา แต่วันนี้ ก็ยังเห็นว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ หากอยากได้เสียง ก็จะต้องไปเจรจาด้วยเหตุด้วยผล พูดดีๆ เพราะ ส.ว. เป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะ ต้องมององค์ประกอบหลายอย่าง ท่านคงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่หากยังมีพฤติกรรมกดดัน ส.ว. เชื่อว่า ส.ว.ไม่ฟังใครอยู่แล้ว เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของเขา หากพูดคุยกันดีๆ ก็จะได้บรรยากาศที่ดี" รองหัวหน้าพรรค รทสช.ระบุ
พร้อมย้ำว่า จะไม่ยกมือโหวตนายกฯ ให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ คือต้องไม่มีการแก้ไขมาตรา 112
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะวางมือทางการเมืองนั้น นายธนกร กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุย ตนไม่ไปก้าวล่วง