นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยืนยันจุดยืนในการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า คำไหนคำนั้น โดยตนมีเหตุผลที่ไม่เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะมีนโยบายที่จะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้ง และนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง และเข่นฆ่าคนไทยด้วยกัน จึงไม่เห็นสมควรที่จะให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
"ส่วนตัวยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ กิตติศักดิ์ ไม่โหวตให้นายพิธา" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไข ม.112 ที่ไม่ได้ใส่ลงไปใน MOU จะช่วยให้มีผู้มาสนับสนุนลงมติให้นายพิธาหรือไม่ว่า ในการแถลง MOU เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) นายพิธา ยืนยันแม้ไม่ได้อยู่ใน MOU แต่จะยื่นเสนอเข้ามาในสภา ซึ่งตนเห็นว่า เป็นปัญหาของนายพิธา และพรรคก้าวไกล เพราะไปหาเสียงไว้ ดังนั้นไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่แก้ก็ไม่ได้ เมื่อสร้างปัญหาเองก็ต้องไปแก้ปัญหาเอง เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องกลั่นกรอง
ขณะนี้ ส.ว.แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ สนับสนุนนายพิธา ตามระบบกลไกของประชาธิปไตย อีกกลุ่ม คืองดออกเสียง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่ม วัดได้ว่างดออกเสียงมากกว่า แต่ปฏิเสธว่าจะมี ส.ว. งดออกเสียงเกิน 150 เสียงหรือไม่
ส่วนกรณีที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมากดดันให้ ส.ว.โหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ นั้น นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ทราบเบื้องต้นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมาด้วยความเป็นมิตรไมตรี เจตนาเพื่อมาแจ้งให้ ส.ว.รับทราบว่าต้องการอะไร ซึ่งเป็นสีสันของประชาธิปไตยในการที่เห็นต่างหรือผู้ที่มาประท้วง ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหา หากมีการพูดจากันดีๆ แต่ถ้าจะมาข่มขู่กดดัน ก็คงจะไม่มีผล
สำหรับบรรยากาศที่อาคารรัฐสภาวันนี้ หลังจากที่เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความเชิญชวนประชาชนให้ออกมารวมตัวชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา ในเวลา 17.00-20.00 น. เพื่อยืนยันในหลักการว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต้องไม่โหวตสวนมติของประชาชน และชัยชนะของประชาชนในครั้งนี้ ต้องไม่ถูกทำลายโดยเสียงของ ส.ว.นั้น มาตรการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวด บุคคลที่เข้า-ออกภายในอาคารฝั่งวุฒิสภา จะต้องมีบัตรประจำตัวบุคลากรของรัฐสภา ขณะที่สื่อมวลชน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าบริเวณชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่ง ส.ว.) โดยเด็ดขาด และในช่วงบ่าย จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาประจำการที่อาคารรัฐสภา จำนวน 4 กองร้อย