คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (Police Watch) ร่วมกันออกแถลงการณ์ เรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาการที่เกี่ยวข้องทุกคน ให้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2566 วินิจฉัยว่า พ.ร.ก.เลื่อนการใช้พระบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย 4 มาตรา ที่คณะรัฐมนตรีออกเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2566 ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 172
ซึ่งหากยังเป็นรัฐบาลปกติ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ซึ่งเป็นบรรทัดฐานทางการเมือง แต่สถานะรักษาการในปัจจุบันคณะรัฐมนตรีรักษาการ ก็ควรแสดงสปิริตหยุดการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่รักษาราชการแทน รวมทั้งขอโทษประชาชนที่ได้กระทำการดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสังคมอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้
พร้อมระบุว่า การกระทำของคณะรัฐมนตรี นอกจากเป็นการไม่เคารพต่อพันธกรณีที่รัฐมีต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่เคารพต่อหลักนิติรัฐ-นิติธรรม และไม่ให้คุณค่าความสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนแล้ว ยังถือเป็นพฤติการณ์ "จงใจใช้อำนาจหน้าที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ" ประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรงของข้าราชการการเมือง และข้าราชการระดับสูง
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ย่อมทราบถึงการกระทำดังกล่าวอยู่เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป จึงมีหน้าที่ต้องดำเนินการถอดถอนคณะรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงผู้เกี่ยวข้องทุกคนจากตำแหน่ง ตามหน้าที่และอำนาจตามที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 บัญญัติไว้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองต่อไป