พรรคเพื่อไทย จัดประชุมสัมมนา "ประสานกำลังใจ เดินหน้าต่อไป เพื่อประชาชน" เพื่อให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับผู้สมัคร ส.ส. ว่าที่ ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ทีมงานพรรคเพื่อไทย ในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมทั้งวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองภายหลังการเลือกตั้ง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อไทย ที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 2 พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคที่ชนะอันดับ 1 เสมอ เราจะช่วยให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ครั้งนี้จะมาร่วมทำงานกันต่อไป
ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอให้ผู้สมัครใช้โซเชียลมีเดียให้มากขึ้น เพราะจะอีกกี่ปีผ่านไปก็ตาม โซเชียลมีเดียยังคงมีความสำคัญ ในขณะที่การลงพื้นที่เล็กๆ การใกล้ชิดประชาชน ก็ยังมีความจำเป็นอยู่และต้องทำควบคู่กันไป
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.มาเป็นอันดับ 2 แต่ก็ต้องชื่นชมผู้สมัครของพรรคที่ทำงานอย่างหนัก โดยแคนดิเดทนายกฯ ทั้ง 2 คน ให้กำลังใจทุกคน โดยยอมรับว่าเราแพ้ในการเลือกตั้ง แต่จะทำอย่างไรให้ก้าวไปให้ได้ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การล่มสลาย แต่จะเป็นแรงขับสำคัญให้เราคงอยู่ต่อไป พรรคพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการทำหน้าที่ของผู้สมัคร
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้พูดถึงภารกิจที่ต้องทำต่อ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่างๆ ในการรีแบรนด์ มีคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาว่าจะมีแนวทางที่จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้น มีนายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรค เป็นหัวหน้าทีม โดยได้มอบภารกิจให้ผู้สมัครแต่ละคนไปประเมินตัวเองว่ามีจุดอ่อน-จุดแข็งอย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลใช้ประกอบในการสัมมนาพรรคครั้งต่อไป และให้พื้นที่ประเมินส่วนกลางในการสนับสนุนการเลือกตั้งด้วย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ยังคงมุ่งหวังเป็นสถาบันการเมืองเคียงคู่ประชาชน และก้าวต่อไปเพื่อประชาชน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า บรรยากาศการสัมมนาวันนี้เป็นไปด้วยความอบอุ่น โดยหลังจากนี้ได้ให้แนวทางปฏิบัติ 2 ส่วน สำหรับผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้ง และที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง จะต้องเตรียมการได้แก่
1.ระหว่างยังไม่ได้ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง หากมีการร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง ทั้งจากผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่ร้องเรียนพรรคอื่น หรือพรรคอื่นร้องเรียนพรรคเพื่อไทย ฝ่ายกฎหมายพร้อมทำงานร่วมกับศูนย์ปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งที่ยังทำงานอยู่
2.เตรียมพร้อมยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ได้กำหนดให้ยื่นภายใน 90 วัน โดยฝ่ายบัญชีพร้อมให้การสนับสนุน
3.ในกรณีที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ผู้สมัครเตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง คือ นโยบาย กระแสการเมือง และการลงพื้นที่ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง โดยเน้นให้ทุกคนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะพรรคเพื่อไทยมีจุดแข็งในการนำปัญหาของประชาชนมาสะท้อนต่อพรรค เพื่อนำไปแก้ไขในอนาคต
อีกทั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคฯ ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้โซเชียลมีเดียมีผลอย่างยิ่ง ประเทศไทยมีผู้ใช้โซเซียลกว่า 50 ล้านคน ช่วยทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง พรรคจึงให้ความสำคัญในจุดนี้ และที่เห็นอีกสิ่งหนึ่ง คืออุดมการณ์ด้านการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยยังสำคัญ คนที่ย้ายฝ่ายจากพรรคเพื่อไทยออกไป 10 กว่าคน สอบตกเกือบหมด รอดมาแค่ 1-2 คน เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักการเมืองที่ไร้อุดมการณ์
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การบ้านที่มอบให้ผู้สมัคร ส.ส. และว่าที่ ส.ส. คาดว่าจะส่งกลับมาภายใน 1 เดือน เพื่อให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองของพรรคได้ถอดบทเรียนในการเลือกตั้ง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีรูปแบบของตนเอง ไม่เลียนแบบ มีอัตลักษณ์ มีตัวตนของเราเอง ขอให้มั่นใจว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราพร้อมเสมอกับการเปลี่ยนแปลง
"เรามองไกลไปถึงสมรภูมิการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผู้สมัครต้องพัฒนาการใช้โซเชียลมีเดียของตนเอง เพราะยังมีผลต่อสู้ในสมรภูมิการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองมายาวนาน ก่อตั้งปี 2543 การเลือกตั้งปี 2544 จนถึงปัจจุบัน พิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนประชาธิปไตย แม้กระแสลมจะเปลี่ยนแปลง แต่เรายังยืนหยัด" นายประเสริฐ กล่าว