นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวภายหลังรับหนังสือจากนายกสมาคมสุราท้องถิ่นไทย/ประธานเครือข่ายสุราแห่งประเทศไทย และตัวแทนสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ (สมาคมฯคราฟท์เบียร์) ว่า ขั้นตอนการทำนโยบายสุราก้าวหน้า ตั้งใจว่าจะเข้าไปแก้กฏกระทรวงของกระทรวงการคลังในช่วง 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาล ไม่ให้มีการกีดกันผ่านทุนจดทะเบียน หรือแรงม้า หรือคนงาน ไม่ว่าเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ให้ผลิตได้ แต่ทั้งหมดเป็นแค่กระดุมเม็ดแรก เพราะกระดุมต่อมาคือเรื่องกฏหมายห้ามโฆษณา เรื่องใบอนุญาตแอลกอฮอล์ และทำให้เข้าสู่ระบบการค้าของโลกให้ได้ และการขับเคลื่อนนโยบายนี้ เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมต้องทำงานร่วมกัน
พร้อมระบุว่า นโยบายนี้เป็นการเพิ่มผู้ผลิตมากกว่าผู้บริโภค เพราะจะทำให้การเกิดกระจายรายได้ กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรทั่วประเทศ
นายพิธา ระบุว่า พรรคก้าวไกลย้ำมาตลอดว่าการผลักดันสุราก้าวหน้า ไม่ใช่เพื่อเพิ่มการบริโภค แต่เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และตั้งใจจะเป็นผู้นำที่ส่งออกสินค้าพวกนี้ไปทั่วโลกให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
"อีกหน่อยเวลามีประชุมใหญ่ๆ ผู้นำต่างประเทศมาประชุมประเทศไทย ไม่ต้องใช้ไวน์ออสเตรเลีย ไวน์ชิลี ไวน์ฝรั่งเศส ผมต้องการใช้สุรากลุ่มนี้ที่มีทั้งเรื่องเล่าและคุณภาพต่างๆ ในการเสิร์ฟผู้นำ เพื่อให้เขารู้ศักยภาพของวัตถุดิบไทยและความคิดสร้างสรรค์สังคมไทย" นายพิธา กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แต่สนับสนุนเรื่องสุราก้าวหน้าทั้งที่เป็นอบายมุขเหมือนกันนั้น นายพิธา กล่าวว่า ทั้งสุราและกัญชามีทั้งประโยชน์และโทษ ไม่มีอะไรเสรีจริง ทุกอย่างต้องมีการควบคุมให้เหมาะสม แต่สิ่งที่ทุกคนพยายามทำ เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูง และราคาสูงกว่าแอลกอฮอล์ทั่วไปที่หาได้ตามร้านสะดวกซื้อ แต่เรื่องนี้เพื่อให้มีทางเลือกมากขึ้นในประเทศ