นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงตำแหน่งประธานสสภาผู้แทนราษฎรว่า ไม่อยากแสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะเจรจา ซึ่งขณะนี้กำลังคุยกัน เป้าหมายสำคัญที่สุดของการทำงานร่วมกันของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย เราต้องให้ความสำคัญกับเสียงประชาชนจำนวน 25 ล้านเสียงที่มอบให้เรามาเสมือนเป็นการมัดให้เราทำงานร่วมกัน เพื่อต้องการรัฐบาลประชาธิปไตยที่จะไปปิดกั้นยุติการสืบทอดอำนาจ และการจัดตั้งรัฐบาลรวมถึงการเลือกนายกฯที่เราประกาศชัดเจนว่าเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ นั่นคือเป้าหมายหลัก ควรยึดตรงนั้นและหาทางออกร่วมกัน ทำงานร่วมกัน เพื่อไปถึงเป้าหมายเชื่อว่าคุยกันได้
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลเลือกให้เป็นประธานสภาฯ พร้อมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องดูผลเจรจาว่ามีทางออกอย่างไร ส่วนการตั้งรัฐบาล ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องนำไปรวมกับเก้าอี้บริหารด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามหลักเสียงข้างมากเด็ดขาด เรายอมรับในมุมนั้นเพราะเขามีสิทธิกำหนดตำแหน่งต่างๆทั้งบริหารและนิติบัญญัติ ให้สอดรับการทำงานของแต่ละฝ่าย แต่กรณีที่เป็นลักษณะพรรคร่วม มีวิธีคิดหลายเรื่องที่จะหาโอกาสทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะพรรคร่วมที่มีเสียงใกล้เคียงกันอาจมีทิศทางหรือแนวทางในการทำงานร่วมกันภายใต้การยอมรับซึ่งกันและกัน ถ้าทุกฝ่ายให้เกียรติซึ่งกันและกันเราก็ไปด้วยกันได้ แต่หากเห็นต่างกันจะทำให้อาณัติประชาชนที่มัดไว้ด้วยกันคลายออกได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน มั่นใจว่าคลายไม่ได้ เพราะเรายึด 25 ล้านเสียงเป็นหลัก เรายึดเป้าหมายรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยเป็นหลัก ตรงนี้ยากที่จะคลายออกจากกันได้ ถ้าฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่งแยกออกไปย่อมทำให้ความหวังของประชาชนเสียหาย
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลจะมีการพูดคุยกันถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและตำแหน่งคณะรัฐมนตรีเพียง 2 พรรคเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพรรคร่วมอื่นๆ ส่วนจะได้ข้อสรุปเรื่องประธานสภาฯ หรือไม่ต้องขอคุยกันให้ตกผลึกก่อน
สำหรับกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธเรื่องดีลลับตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกลตามที่นายชูวิทย์ กลมวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยนั้น นายประเสริฐ ชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่เคยให้ไว้ตั้งแต่หลังผลการเลือกตั้งออกมา ไม่มีดีล ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ข่าวที่ออกมาในช่วงเวลาต่อเนื่อง ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกมา และมีวัตถุประสงค์อะไร ขอให้ดูการกระทำมากกว่าคำพูด แต่ไม่อยากมองว่าเป็นการรับงานเพื่อมาโจมตีพรรคเพื่อไทย
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ทวิตชี้แจงหลังมีภาพปรากฎกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปร่วมรับชมการแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดปิดสนามที่ประเทศอังกฤษว่า ไม่มีการคุยหรือดีลเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น เป็นการบังเอิญเจอกันในการในการดูการแข่งฟุตบอลของทีมเลสเตอร์
"ผมกับครอบครัว คุณวิชัย สนิทกันมานานหลายปี เมื่อ 7-8 ที่แล้วตอนที่เลสเตอร์ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกผมก็มาร่วมฉลอง วันนี้ เลสเตอร์ แข่งนัดสุดท้ายเพื่อหนีตกชั้น ผมก็ต้องมาให้กำลังใจกัน ในฐานะคนบ้าบอล เรื่องนี้ผมแพลนไว้ก่อนหน้าแล้วเป็นเดือน ส่วนคุณหนู (อนุทิน) ผมรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และบังเอิญเจอกันก็ยิ้ม ทักทายกันตามประสาคนรู้จัก เท่านั้น ไม่มีคุยหรือดีลเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น ถ้าจะคุยกันคงไม่ต้องมาถึงอังกฤษมั้งครับ" นายเศรษฐา ระบุ
ส่วนกรณีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือเรียกร้องให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ นายประเสริฐ กล่าวว่า ทางกลุ่มสิทธิที่เสนอความเห็นต่างต่อพรรคได้ แต่พรรคก็มีหน้าที่บริหารความต่างให้เป็นความเห็นร่วมกัน ทั้งนี้พรรคยังยืนยันว่าจะดำเนินตามเจตนารมณ์ที่ได้ลงนามไว้ใน MOU ที่จะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี