นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลตั้งคณะทำงานประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition Team นั้นถือเป็นการเตรียมตัวที่ดี ซึ่งการขอความร่วมมือจากข้าราชการประจำไปชี้แจง สามารถทำได้
ในอดีตเคยมีการทำ แต่ก็อยากจะให้ช่วยทำให้แนบเนียน เพราะอาจทำให้ข้าราชการประจำเกิดความลำบากใจ เพราะยังทำงานอยู่กับรัฐบาลนี้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล อย่างเช่นในอดีต รัฐบาลไทยรักไทยที่มีกว่า 300 เสียง ซึ่งก็ถือว่ามีความชัดเจนว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน ไม่ต้องใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภามาโหวต ตอนนั้นแม้จะยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ก็เคยขอให้ข้าราชการประจำไปให้ข้อมูลต่างๆ ก็มีการทำมาแล้ว ทำแบบนิ่งๆ เนียนๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหา การที่ข้าราชการประจำไปให้ข้อมูลก็ไม่ถือเป็นความผิด แต่อาจจะเกิดความอึดอัดใจลำบากใจ และขึ้นอยู่กับว่าเป็นการขอข้อมูลในเรื่องใด ขออย่าให้ถือเป็นเรื่องใหญ่โต
"ก็เขาจะเข้ามาบริหาร ถ้าเขาเชื่อแบบนั้น เขาจำเป็นต้องมีข้อมูล ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะต้องการข้อมูลเกี่ยวกับอัตรากำลังคน ซึ่งก็ต้องเชิญ ก.พ.ไปถาม หรือเกี่ยวกับงบประมาณก็ต้องเชิญสำนักงานงบประมาณไปสอบถาม หรือเกี่ยวกับแผนพัฒนาก็เชิญสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาสอบถาม แต่ถ้าไปทำอึกทึกครึกโครม ฉันจะเป็นรัฐบาลแน่ๆ แล้วนะ แบบนี้ไม่ควร เพราะยังไม่เป็น" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ตนอยากเห็นคนที่เป็นรัฐบาลมีความพร้อม เพราะฉะนั้นอะไรที่เอื้อเฟื้อกันได้ก็ควรทำกันไป แต่อย่าทำให้ข้าราชการประจำอึดอัดใจ เพราะเขายังมีผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจเต็มตามกฏหมายอยู่ หากเกิดเขม่นขึ้นมาจะลำบาก แต่ถ้าเป็นข้อมูลลับทางราชการไม่สามารถเปิดเผยได้อยู่แล้ว อย่าว่าแต่พรรคการเมืองเลย แม้แต่คนในรัฐบาลด้วยกันเองก็ให้ไม่ได้ ซึ่งข้อมูลลับให้ได้แต่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เช่น งบลับ
นายวิษณุ เชื่อว่า การรับรองผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะสามารถทำได้เร็ว และสามารถเลื่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาฯ ให้เร็วขึ้นได้ เพราะอาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถกำหนด แต่จะกี่วันนั้น ตนไม่ทราบ