นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้พับหรือยุติโครงการดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาทตามที่มีการนำเสนอข่าว แต่เป็นเพียงการชะลอไปก่อน เพื่อใช้เวลาในการเจรจาร่วมกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างมีวุฒิภาวะ และให้เกียรติพรรคแกนนำ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประชาชนให้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันข้อเท็จจริงใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. ข้อจำกัดด้านงบประมาณ และผลการเลือกตั้ง
- นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย 10,000 บาท ต้องใช้งบประมาณรวม 560,000 ล้านบาท ในขณะที่นโยบายด้านสวัสดิการของพรรคก้าวไกล ใช้งบประมาณ 650,000 ล้านบาท นโยบายที่ใช้งบประมาณทั้ง 2 ก้อนนี้ ไม่ได้ใช้งบประมาณจากการกู้เงิน แต่เป็นงบที่อยู่ในระบบงบประมาณ ดังนั้นจึงหมายความว่าทั้ง 2 นโยบายใช้งบก้อนเดียวกัน การใช้เงิน 2 ก้อนพร้อมกันในภาวะการคลังแบบนี้ จึงไม่สามารถทำได้ ทำให้ในที่สุดจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะต้องเลือกระหว่างนโยบายสวัสดิการ และนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท
- ผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งประเด็นนี้มีความสำคัญในการเจรจาและข้อตกลงเชิงนโยบาย ภายใต้การให้เกียรติพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
2. พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีความหวังของประชาชนที่สนับสนุนพรรคไม่น้อย ในการเจรจาที่จะเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่ชี้แจง ให้ความเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ และประชาชน โดยนโยบายดิจิทัล วอลเล็ท เป็นนโยบายที่สำคัญและตอบโจทย์ประเทศ ดิจิทัลวอลเล็ท คือการปั๊มหัวใจประเทศในขั้นแรกให้เดินต่อไป และจะตามด้วยอีกหลายนโยบาย ดังนั้น "ดิจิทัลวอลเล็ท" มีประโยชน์ใน 2 มิติคือ
1) การกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะประเทศไทยในสภาวะปัจจุบันยังไม่พร้อมรับนโยบายต่างๆ ได้ ถ้าไม่ปั๊มหัวใจก่อน จึงจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน
2) ความจำเป็นในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้ประเทศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้น
ดังนั้น เรื่องดิจิทัลทั้งหมด จึงมีความสำคัญที่พรรคเพื่อไทย ต้องนำเข้าสู่การเจรจากับพรรคแกนนำ และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตท อย่างไม่เป็นทางการแล้ว และจะหารืออย่างเป็นทางการร่วมกันอีกครั้งในอนาคต โดยยืนยันว่า การดำเนินนโยบายของพรรคแกนนำ และนโยบายดิจิทัลวอลเล็ทต ต่างต้องใช้งบประมาณมาก และไม่สามารถใช้งบประมาณก้อนเดียวกันได้
"ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเข้าสู่การเจรจา พรรคเพื่อไทยไม่ใช่แกนนำ แต่เราจะเจรจาโดยให้เกียรติพรรคแกนนำ เราไม่ได้ปิดโอกาสในการไม่มีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท ให้เกียรติตัดสินใจ และมีอำนาจตัดสินใจ บนพื้นฐานของการเข้าสู่การเจรจาซึ่งกันและกัน" นายเผ่าภูมิ กล่าว
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีนโยบายนี้ในอนาคตนั้น นายเผ่าภูมิ ระบุว่า เรามีความหวัง หากมีงบประมาณเพียงพอ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำ และเป็นสิ่งจำเป็นในการวางโครงสร้างด้านดิจิทัลสำหรับประเทศไทย
"เราต้องเข้าใจตรงกันว่า ปัจจุบันเรากำลังจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประชาชน เพื่อสะท้อนเสียงของประชาชน เราต้องเดินไปสู่จุดนั้นด้วยความละมุนละม่อม ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และให้เกียรติพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล" นายเผ่าภูมิ กล่าว