นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการถือครองหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โดยกมธ.จะทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้เร่งรัดในการตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา ในการเสนอเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชี้ขาดเพื่อความชัดเจนในการที่จะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ เพราะอย่างน้อยที่สุดการที่ศาลได้ตัดสินวินิจฉัยชี้ชาดก็จะเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศและของคนหมู่มาก
"หากรอไปจนถึงขั้นตอนของวุฒิสภาลงมติโหวตนายกฯ เกิดวุฒิสภาไม่เห็นชอบหรือไม่เห็นด้วย ไม่ว่าประการใดก็จะเกิดคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเรื่องเหล่านี้ก็จะเกิดความไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงขอให้ กกต.เร่งรัดรวบรวมหลักฐานส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการต่อไปก่อนที่จะถึงกำหนดวันเลือกนายกฯ" นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวว่า ถ้ามองในมุมของข้อกฎหมาย สมาชิกภาพของ ส.ส.นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อมีสมาชิกภาพแล้วก็น่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ เพียงแต่ว่าอาจจะมีข้อโต้แย้งว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เพราะ กกต.ยังไม่รับรอง จึงมีประเด็นว่า กกต.ควรจะรับรองก่อนแล้วส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อที่จะตัดประเด็นปัญหาไประดับหนึ่ง
"ถ้าถือหุ้นตั้งแต่เสนอชื่อในบัญชี และส่งให้ กกต.ถือว่ามีผลในทางกฎหมายแล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ เพราะฉะนั้นนายพิธาจะมาขายหรือโอนหุ้นในตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้ข้อเท็จจริงตรงนั้นเปลี่ยนแปลงไป แต่ถ้านายพิธาโอนหุ้นไปก่อนหน้านี้แล้วมาสมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคและไม่ได้ไปรับรองใคร แล้วถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯในช่วงนี้แล้วไปถอนหุ้นออกก่อนก็ยังมีผลทางข้อกฎหมาย เพราะการเสนอชื่อในบัญชีไม่ได้มีผลตอนที่สภาจะลงมติ แต่มีผลตั้งแต่เสนอชื่อ ดังนั้นหากมาขายหุ้นตอนนี้ก็ไม่มีผลอะไร" นายเสรี กล่าว