นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรค เช่น นายปกรณ์วุฒิ พิพัฒน์สกุล, นายรังสิมันต์ โรม, นายพริษฐ์ วัชระสินธุ์ ว่าที่ ส.ส. เดินทางเข้าพบนายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) หรือ ACT
นายพิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมา การตรวจสอบหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคก้าวไกลได้ขอข้อมูลจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) มาโดยตลอด เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม, โครงการเสาไฟกินนรี เป็นต้น ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ในการทำหน้าที่ ส.ส. ได้เห็นการทุจริตคอร์รัปชั่นในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งวันนี้ พรรคก้าวไกลต้องการมารับฟังข้อเสนอแนะจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น พร้อมกับนำเสนอนโยบายของพรรคก้าวไกล เพื่อนำไปสู่การต่อยอดแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น
สำหรับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่นำมาเสนอวันนี้ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการภายใน 100 วันนับจากได้เป็นรัฐบาล โดยเฉพาะการบริหารงานในภาครัฐที่จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (AI) เข้ามาขับเคลื่อน รวมทั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่จะอยู่ในระบบ ทำให้สามารถตรวจสอบได้
"หากมีเทคโนโลยีเหล่านี้ จะทำให้การทำงานในเชิงรุกมากขึ้น และวันนี้ อยากฟังข้อเสนอแนะจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) ว่า จะให้รัฐบาลใหม่ช่วยอะไรบ้าง" นายพิธา ระบุ
ส่วนคณะทำงานเปลี่ยนผ่านด้านการทุจริตคอรัปชั่น 8 พรรคนั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้เริ่มประชุมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากผู้รับผิดชอบ ทั้งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ยังติดภารกิจอื่น ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะพูดคุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตลอดจนพรรคเพื่อไทยด้วย เพื่อร่วมกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น หลังจากจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
นายพิธา กล่าวด้วยว่า พรรคก้าวไกล จะประสานงานและหารือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นอีกครั้ง โดยการหารือในโอกาสหน้าจะนำคณะทำงานเปลี่ยนผ่านด้านทุจริตคอร์รัปชั่นมาร่วมหารือด้วย
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำเสนอในที่ประชุม โดยกล่าวว่า ใน 100 วันแรกของรัฐบาลก้าวไกล เชื่อว่าจะสามารถตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็น ไม่เหมาะสม และนำไปใช้ในโครงการที่คุ้มค่ามีประโยชน์ต่อประชาชน รวมได้กว่า 2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังผลักดันหลักการ Open Parliament เบื้องต้นจะถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการทุกชุด เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตาม ตรวจสอบได้ โดยเชื่อว่าจะทำให้การคอร์รัปชันลดน้อยลง ไม่มีเหตุการณ์การจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป
และหลังจาก 100 วันไปแล้ว พรรคก้าวไกล จะผลักดันนโยบายบัตรประชาชนดิจิทัล เพื่อให้สามารถสอดคล้องกับแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนได้ เช่น การเข้าชื่อถอดถอน, เสนอร่างกฎหมาย และอาจจะสามารถต่อยอดในอนาคตได้ เช่น การเลือกตั้ง ประชามติ กระบวนการงบประมาณ ฯลฯ เพื่อให้การดำเนินการใดๆ มีความสะดวก รวดเร็ว ผิดพลาดน้อย แต่ต้นทุนต่ำ