นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการหารือเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหาย ในบางมาตราออกไปหลังมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ.66 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลทางกฎหมายให้ย้อนกลับไปบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.66 ตามเดิม แต่สิ่งใดที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายไประหว่างนั้นถือว่าสมบูรณ์แล้ว ไม่มีความรับผิดทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบนั้น หากสภาไม่เห็นชอบ พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็ต้องมีความรับผิดชอบในภาวะปกติ แต่ขณะนี้มีการยุบสภาไปแล้ว ขณะที่รัฐบาลมีสถานะรักษาการรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามารับช่วงต่อ จึงไม่ได้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ หรือเป็นกรณีที่สภาไม่ไว้วางใจรัฐบาล
สิ่งที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไปตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญคือ การเร่งปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยในการประชุมคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวก็ได้พิจารณาถึงแนวทางที่ต้องดำเนินการตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเรื่องนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ มหาดไทย ฝ่ายปกครอง กลาโหม และอัยการได้ดำเนินการคืบหน้าไปราว 60% แล้ว ขณะที่งบประมาณพร้อมจะไปจัดซื้อจัดหาแล้ว จากนี้ไปจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายที่ได้มีการบังคับใช้แล้วโดยไม่มีอุปสรรค