นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคลิปวิดีโอบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี บมจ.ไอทีวี (ITV) ที่มีคนมองว่าเป็นกระบวนขัดขวางการก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้คณะทำงานกฏหมายทางพรรคได้ข้อมูลเพิ่มเรื่อยๆ จากคนที่อาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้เข้ามา
การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาตามมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้หลุดจากฉากทัศน์ที่คิดไว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ มีข้อมูลเข้ามามากขึ้น แต่ยืนยันว่า ได้เตรียมหลักฐานและข้อกฏหมายไว้ต่อสู้ แต่ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก กกต.
ทั้งนี้ ตามมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.มีการตั้งเรื่องก่อนศาลจะวินิจฉัยว่ามีกระบวนการทำให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตรงนั้นไม่ได้เป็นประเด็นโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะแม้หากศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ยังสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ตรงนี้จึงไม่เป็นอุปสรรคการเข้าสู่เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย
ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะไม่สามารถเสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หากถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.นั้น นายพิธา กล่าวว่า น่าจะเป็นความเข้าใจคาดเคลื่อนของนายวิษณุ เพราะตอนเสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว แต่ในช่วงเลือกนายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งเป็นการยืนยันว่าการเป็น ส.ส.กับการเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีการเปิดเผยคลิปการประชุมผู้ถือหุ้น แต่อาจไม่มีน้ำหนักเพียงเพียงพอที่จะลบล้างการถือหุ้นได้ นายพิธา ยืนยันว่า พร้อมต่อสู้ในทุกกระบวนความ และยังมั่นใจในหลักฐานและหลักกฏหมาย
"ยิ่งเห็นความไม่ชอบมาพากล มีพิรุธในการพยายามสร้างหลักฐาน ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ผมมั่นใจว่า สามารถต่อสู้คดีนี้ได้ทุกรูปแบบ" นายพิธา กล่าว
ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหลังจากการพ้นตำแหน่ง ส.ส.ก็จะดำเนินการให้ตรงตามกฏหมายและรัดกุมให้มากที่สุด ก่อนที่จะยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบภายในวันที่ 18 มิ.ย.นี้
สำหรับความคืบหน้าการจัดทำโผ ครม.นั้น นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้ยังเป็นการทำงานภายใต้คณะทำงานเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลดความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ดูเรื่องเนื้องานไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็น่าจะได้โผ ครม.ออกมา