นายรัชพล ศิริสาคร หรือ ทนายรัชพล เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คัดค้านการดำเนินการสอบสวนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ ส.ส.และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กรณีถือหุ้นไอทีวีใน 6 ประเด็น ได้แก่
1.ขอให้ กกต.ตัดเอกสารรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นของบมจ. ไอทีวี ประจำปี 2566 และงบการเงินปี 2566 ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นำมายื่นออกจากการพิจารณา เพราะเห็นว่ามีความไม่ชัดเจน มีข้อความที่ขัดแย้งกันอยู่
2.ขอให้ระงับการดำเนินการสอบสวนเอาผิดนายพิธาตามมาตรา 151 เนื่องจากยังไม่มีคำพิพากษาของศาลว่า นายพิธามีความผิดจากกรณีการถือหุ้นสื่อ การที่ กกต.ตั้งข้อกล่าวหา และสอบนายพิธาว่ามีความผิดตามมาตรา 151 ทั้งที่ความผิดยังไม่ชัดเจนจึงไม่เป็นธรรม
3.หากกรรมการไต่สวนยังดำเนินการอยู่ ขอให้เรียกนายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานบริษัทไอทีวีมาชี้แจง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่า itv มีการประกอบกิจการสื่อหรือไม่ หรือประกอบกิจการอะไรบ้าง หรือไม่ประกอบกิจการอะไรเลย รวมถึงเกิดอะไรขึ้นกับเอกสารรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ที่พบว่ามีเนื้อหาขัดแย้งกันอยู่ระหว่างที่นำส่ง ก.ล.ต.กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
4.ขอให้ กกต.ขอข้อมูล การยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาประกอบสำนวนการพิจารณาคดี กรณีนายเรืองไกรอ้างว่า ที่ดินใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่นายพิธาถือครองอยู่ เป็นทรัพย์ที่ได้รับการการรับมรดก ว่ามีความแตกต่างจากการมีชื่อถือครองหุ้น itv เพราะส่วนตัวเห็นว่าไม่น่าจะมีผลอะไร มรดกมีหลายอย่าง ทั้งที่ดิน หุ้น และอื่นๆ อาจแบ่งได้ 2 ส่วน ส่วนที่แบ่งแล้วก็สามารถโอนให้คนอื่นๆ ได้ ส่วนที่ยังไม่ได้แบ่ง ก็สามารถรอจัดการมรดกได้
5.ขอให้ กกต.ดำเนินการในฐานะเป็นผู้เสียหายโดยตรง แจ้งความเอาผิดฐาน แจ้งความเท็จกับผู้ที่นำเอกสารที่ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ที่มีความขัดแย้งกับคลิปเสียงของนายคิมห์ในที่ประชุม ซึ่งตนก็ไปแจ้งความไว้ที่สน.ทุ่งสองห้องเช่นกัน แต่หากกกต.แจ้งความเองจะมีน้ำหนักมากกว่า
6.อยากให้การพิจารณาคดีต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ขอให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยซึ่งเป็นไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการดำเนินคดีเลือกตั้ง มาตรา 6 วรรคสาม ซึ่งคิดว่า กกต.ก็น่าจะส่งอยู่แล้ว แต่ที่ตนมายื่นเพื่อให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น