นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก บมจ.ไอทีวี (ITV) ว่า คงไม่สามารถคาดเดาคำพิพากษาของศาลได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะตัดสินมาเมื่อไร ตนเห็นเพียงข่าว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้ข่าวว่าจะตัดสินตอนนั้นตอนนี้ ซึ่งในส่วนของ สปน.ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว
ปลัด สปน. ยืนยันว่า ไม่ได้มีการปลุกผีไอทีวีอย่างที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำเพื่อหวังผลคดีการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พร้อมย้ำว่า สปน.ไม่ได้กลับไปแตะเรื่องคดีไอทีวีเลย เพียงแต่ต้องนำไปศึกษา หากศาลตัดสิน จะได้เตรียมตัวตามหน้าที่ของ สปน.
ทั้งนี้ หาก บมจ.ไอทีวี เป็นฝ่ายชนะ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับมาเป็นสื่อ เพราะการฟ้องร้องไม่มีประเด็นเหล่านี้ เป็นเรื่องค่าปรับคำฟ้อง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ เป็นเรื่องของค่าปรับที่จะต้องเสียค่าสัมปทาน และมีการฟ้องร้องกันว่าเนื่องจากมีทีวีดิจิทัล การให้สัมปทานเดิมอาจจะได้รับประโยชน์ไม่เท่ากับในสัญญาเดิม ซึ่งคำร้องเป็นการฟ้องร้องเรื่องสัญญาทั้งหมด เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผังรายการเมื่อ 10 ปีก่อน
"ไม่เกี่ยวอะไรกับสำนักปลัดฯ อันนี้เขาฟ้องกันอยู่ และไม่เคยกลับไปแตะต้องไอทีวีอีกเลย จนกระทั่งมีข่าวตรงนี้ กรุณาอย่าเอา 2 เรื่องไปผูกกันให้เกิดความสับสน คดีมีมาก่อน ไม่เคยมีอะไรเพิ่มจาก 2 ปีที่แล้ว และสถานะอยู่อย่างไร ก็อยู่อย่างนั้น เพียงแค่เรารอ ต้องให้เวลาศาลในการพิจารณาคดี" นายธีระพงษ์ กล่าว
ปลัด สปน. กล่าวด้วยว่า คดีนี้ได้มีการฟ้องร้องมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เริ่มแรกจากการฟ้องร้องค่าสัมปทาน หลังมีคู่แข่งเข้ามาและทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ และตอนหลังเป็นเรื่องการจ่ายค่าสัมปทาน รวมถึงการปรับผังรายการ รวมถึงมีการยื่นอุทธรณ์ ต่อจากนั้นก็ไปที่อนุญาโตตุลาการ สรุปสั้นๆ ว่า ต่างฝ่ายต่างมีหนี้สินเสมอกันไป และสุดท้าย สปน. ก็มีคำอุทธรณ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำตัดสินจากศาลปกครองสูงสุด