นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การจัดงานปฐมนิเทศ ส.ส.ของพรรคในวันนี้ เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น ส่วนกรณีที่เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือตำแหน่งประธานสภาฯ นั้นคาดว่าจะเป็นการพูดแลกเปลี่ยนความเห็นให้ผู้ประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้รับฟัง ไม่ใช่การประชุมเพื่อหามติใดๆ
กรณีที่มี ส.ส.เพื่อไทยออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่อยากยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกลนั้น ตนได้เห็นจากข่าวเช่นกัน แต่ไม่ได้มีโอกาสพูดคุย เชื่อว่าวันนี้มีโอกาสไปฟัง ซึ่งได้รับแจ้งจากแกนนำที่ไปหารือการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 3 วันก่อนว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าพรรคที่ได้ ส.ส.อันดับ 1 ควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคอันดับ 2 ขอตำแหน่งรองประธานสภาฯ ดังนั้นเชื่อว่าจะมีการหารือในแนวทางอีกครั้ง
"ผมเชื่อว่าทางออกของเรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกประธานสภาฯ เป็นการลงมติลับ ดังนั้นไม่ทราบว่าใครลงคะแนนให้ใคร แต่โดยปกติแล้วการลงมติดังกล่าว มีมติจากแต่ละพรรคเพื่อแสดงถึงทิศทางเดียวกัน ทำให้เห็นว่าพรรคมีนโยบายจุดยืนไปในทิศทางใด ดังนั้นเชื่อว่าจะหารือกัน และดำเนินการไปตามมติพรรค นอกจากนั้น ต้องคำนึงถึงความสำเร็จของการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะทำให้กลายเป็นเสียงข้างน้อยในสภาฯ ทำให้ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชน และอาจจะได้รัฐบาลที่ไมมีความชอบธรรม ดังนั้นควรยึดการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยเป็นอันดับแรก ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อมีการพูดคุยแล้วจะมีทิศทางที่ดี" นายจาตุรนต์ กล่าว
ส่วนที่มีข่าวพรรคอื่นเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ กับคนของพรรคก้าวไกลนั้น ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะได้ข่าวเป็นแบบกึ่งๆ ข่าวลือ แต่เชื่อว่าพรรคการเมืองจะหารือเพื่อเป็นประโยชน์ และส่งเสริมการจัดตั้งรัฐบาล จึงควรยึดเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการลงมติเลือกประธานสภาฯ ของ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยจะไม่แตกแถว เพราะเป็นเพียง ส.ส.คนหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องพยายามช่วยกัน เพื่อให้ไปด้วยกัน จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
"ในทางการเมือง แม้ว่าการลงมติจะเป็นเอกสิทธิ์ และลงมติลับ แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศอะไรไว้กับประชาชนแล้ว การดำเนินการก็ควรจะไปในทิศทางเดียวกัน" นายจาตุรนต์ ระบุง