นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปชช.) กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกัน เพราะต้องรอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หายป่วยก่อนจึงจะมีการหารือกันอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของพรรคไม่ได้มีการต่อรองเรื่องเก้าอี้ร้ฐมนตรี และไม่ได้ขอเก้าอี้รัฐมนตรีตามที่มีข่าว ส่วนจะได้รับจัดสรรตำแหน่งใดนั้นขอให้เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับพรรคที่ต้องการมาทำงานและทำประโยชน์ให้ประชาชน
ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ นั้นเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะไปตกลงกันเอง ส่วนรองประธานสภาฯ นั้นปกติตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งเป็นของพรรคอันดับสอง และรองประธานฯ คนที่สองเป็นของพรรคอันดับสาม
"การเลือกประธานสภาฯ ปกติหากมีคู่แข่งต้องลงมติลับ แต่หากมีชื่อคนเดียวไม่เป็นปัญหา และเราจะปฏิบัติตามข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะให้พรรคใดได้ตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคประชาชาติจะเลือกตามมติพรรคและข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าหากมีปัญหาจะปล่อยให้ ส.ส.ฟรีโหวตนั้น ผมมองว่าปกติไม่เป็นแบบนั้นเพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมา" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
สำหรับการเสนอชื่อแข่งขันของพรรคฝ่ายตรงข้าม นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามเสนอแข่งตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามเสนอชื่อบุคคลในพรรคที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามมาแข่งนั้นไม่ค่อยเห็น อย่างไรก็ดี การออกเสียงเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ของพรรคประชาชาติจะเป็นไปตามมติของพรรคและมติพรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ตนมองว่าต้องมีความรู้ความสามารถ ดูแลการประชุมสภาฯ ให้เรียบร้อย และต้องทำงานได้อย่างมีเกียติ มีศักดิ์ศรี เพราะสภาฯ มีหน้าที่ออกกฎหมาย และตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้เชื่อว่าพรรคที่ได้ตำแหน่งดังกล่าวจะคัดเลือกคนที่ดีที่สุด และตนหวังว่าทุกพรรคจะเลือกคนที่ดีเข้ามาทำหน้าที่ประธานสภาฯ เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนจะผิดหวัง
กรณีที่ประธานสภาฯ เป็นโควต้าของพรคก้าวไกล คงไม่ทำให้เกิดชนวนขัดแย้ง เพราะการประชุมสภาฯ มีการลงมติยึดเสียงข้างมาก และเป็นปกติที่จะโต้แย้งในญัตติต่างๆ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยถือเป็นธรรมดาของฝ่ายนิติบัญญัติ ความเห็นไม่ตรงกันไม่ใช่เรื่องความแตกแยก