นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการได้พิจารณาเตรียมกำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม
โดยวาระแรกได้รับทราบจำนวนสมาชิกพรรค ณ ปัจจุบัน มีอยู่จำนวน 89,642 คน ซึ่งเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีประชาชนสนใจมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ วาระที่สองตามข้อบังคับพรรคจะต้องมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารสำหรับกำหนดวัน เวลา สถานที่ เพื่อจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี พ.ศ.2566 ซึ่งที่ประชุมมีมติกำหนดให้มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคขึ้นในวันที่ 9 ก.ค.66
พร้อมทั้งได้พิจารณากำหนดระเบียบวาระที่จะบรรจุไว้ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี โดยเรื่องสำคัญคือการกำหนดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และการกำหนดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ซึ่งทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิ่งสำคัญที่พรรคจะต้องทำปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย
การประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีจะมีการรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญของพรรค ประจำปี 2566 โดยทั้งหมดจะเป็นไปตามระเบียบวาระ และที่ประชุม กก.บห.ได้ลงมติเห็นชอบให้มีการจัดประชุมตามวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระ พร้อมกับมีการแต่งตั้งให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดการประชุมใหญ่สามัญดังกล่าว และที่ประชุมยังได้ให้นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกด้วย ส่วนรายชื่อคณะกรรมการของทั้ง 2 คณะจะมีการกำหนดรายชื่อกันอีกครั้ง
สำหรับองค์ประชุมในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคนั้น ที่ประชุมได้ที่กำหนดองค์ประชุมไว้จำนวน 374 คน ประกอบด้วย กก.บห.พรรคชุดรักษาการ, สมาชิกพรรคที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรค อดีตเลขาธิการพรรค ส.ส.ของพรรคชุดปัจจุบัน จำนวน 25 คน ตามที่ กกต. ได้ประกาศรับรอง, สมาชิกพรรคที่เป็นรัฐมนตรีจำนวน 2 คน อดีตรัฐมนตรีจำนวน 19 คน ส่วนสมาชิกที่เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคมีจำนวน 85 คน
การเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่และหัวหน้าพรรค จะได้เชิญอดีต ส.ส.ที่ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ได้มีส่วนเข้ามาเลือกตั้งด้วย ส่วนการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคในต่างจังหวัด พรรคได้เชิญสมาชิก อบจ.ที่พรรคส่งลงสมัคร 1 คน สมาชิกสภา อบจ. 1 คน ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ประจำเขตเลือกตั้งจำนวน 172 คน สาขาพรรคจำนวน 20 คน และยังมีองค์ประชุมอื่นๆ อีกจำนวน 20 คน รวมทั้งสิ้น 374 คน
ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ได้กำหนดไว้แล้วว่าองค์ประชุมที่มีสิทธิ์เลือกตั้งหัวหน้าพรรคจะมีโอกาสได้ฟังแนวนโยบาย วิสัยทัศน์ รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์การนำพาพรรคจากผู้สมัครหัวหน้าพรรคทุกคนก่อนที่จะได้เข้าคูหาเพื่อเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนถัดไป และจากนั้นจะเป็นการเลือกกรรมการบริหารพรรคไปตามลำดับ
สำหรับผู้เสนอตัวลงสมัครหัวหน้าพรรคขณะนี้ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วนจะมีการพูดคุยเป็นกลุ่มว่ามีใครเหมาะสมอย่างไรนั้น ตนก็เชื่อว่ามีการพูดคุยกันอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าแต่ละคนจะสนับสนุนท่านใดเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ต่อไป ซึ่งตามข้อบังคับพรรคไม่ได้ระบุว่าหัวหน้าพรรคจะต้องเป็น ส.ส. แต่เชื่อว่าองค์ประชุมจะเลือกคนที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์ สุจริต และคำนึงการนำพาพรรคในวันข้างหน้า