นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะต้องรอการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ซึ่งขั้นตอนขณะนี้ ยังเป็นเพียงกระบวนการภายในของพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เปิดให้แสดงความคิดเห็น ก่อนที่จะนำไปเจรจาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล โดยยอมรับว่าความเห็นส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ต้องการให้เสนอขอตำแหน่งประธานสภาฯ แต่สุดท้าย ก็ต้องขึ้นอยู่กับการหารือของทั้ง 2 พรรค และพรรคเพื่อไทย มีความระมัดระวังอย่างมากที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้งจนบานปลาย
ส่วนกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มองว่าพรรคเพื่อไทย จะต้องให้ความสำคัญกับความรู้สึกของ ส.ส.พรรคนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลักการทำงานของพรรคเพื่อไทย คือ ยึดถือประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจประชาธิปไตยมาเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยสมาชิกและ ส.ส.ในพรรค เป็นอันดับสอง และอันดับสุดท้าย คือ พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน
ส่วนที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จะขอใช้เอกสิทธิ์งดออกเสียง หากมีข้อตกลงให้ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคก้าวไกลนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ ส.ส. มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการแสดงความคิดเห็นและลงมติ แต่ในระบบพรรคการเมือง ต้องมีการพูดคุยกัน และต้องยึดหลักเสียงข้างมาก ซึ่งจะต้องมีข้อสรุปในระบบพรรคการเมือง
"เมื่อเพื่อไทยมีความเห็นต่าง ก็ต้องหามติร่วมให้ได้ ก่อนที่จะไปพูดคุยหรือเจรจากับพรรคก้าวไกล เชื่อว่า ส.ส.เพื่อไทย มีวินัย เมื่อพรรคมีมติแล้ว จะทำตามมติ" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ
ส่วนหากมีการเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภาฯ นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับตัวนายสุชาติ และเราไม่มีสิทธิที่จะห้ามสิทธิของสมาชิกแต่ละคนที่จะเสนออะไรขึ้นมา
ส่วนที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ออกมาแสดงความเห็นว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ควรจะเป็นของพรรคอันดับ 3 นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องให้พรรคแกนนำเป็นผู้พิจารณา เพื่อไทยก็เสนอในมุมของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคก้าวไกลได้ 151 ที่นั่ง เพื่อไทยได้ 141 ที่นั่ง ขณะที่ประชาชาติได้ 9 ที่นั่ง ซึ่งห่างกันมาก
"คณะเจรจาของเพื่อไทยมองว่า คะแนนห่างกันออกมา จึงเสนอให้พรรคอันดับ 2 ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ส่วนก้าวไกลจะรับหรือไม่ และก้าวไกล จะคุยกับนายวันมูหะหมัดนอร์ อย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ
พร้อมแสดงความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะได้ข้อยุติที่ลงตัวเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ได้ ไม่เกิดปัญหาบานปลายตามที่หลายฝ่ายเป็นกังวล
"เพื่อไทย ในฐานะทีมเจรจาและเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มั่นใจว่า สิ่งที่คนหวั่นไหวหรือคาดการณ์ จะไม่เกิดขึ้น เราต้องจบในพรรคก่อนที่จะเจรจากับก้าวไกล และทั้ง 2 พรรคต้องจบก่อนที่จะประชุมสภาฯ นัดแรกเพื่อโหวตเลือกประธานสภาฯ" นพ.ชลน่าน ระบุ