นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคว่า วันนี้เป็นการประชุมส.ส.ครั้งแรกภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรองส.ส. ซึ่งครั้งนี้มีส.ส.ใหม่ จำนวน 27 คน จาก 68 คน ที่เป็นส.ส.เขต จึงต้องมีการหารือถึงวิธีการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และรับรู้ถึงแนวนโยบาย โดยเฉพาะความเป็นเอกภาพเป็นปึกแผ่นที่พรรคให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ตนจะนำส.ส.ของพรรคไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้พร้อมกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้มีทยอยเดินทางไปรายงานตัวบ้างแล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ถือว่าเรามีความพร้อมในการเตรียมตัวเริ่มทำงานในฐานะส.ส. และการดำเนินงานในสภาฯ ตามปฏิทินการเมือง เชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามครรลอง ส่วนทิศทางการเมืองหลังจากนี้ วันนี้ส.ส.ของพรรคมีฉันทามติให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ในการขับเคลื่อนทางการเมืองในช่วงเริ่มเปิดประชุมสภาชุดใหม่
ส่วนการรวบรวมรายชื่อ 50 ส.ส. ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดคุยถึงทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาก่อน
นายอนุทิน ยืนยันว่า ในวันประชุมสภาฯ เพื่อโหวตประธานสภาฯ พรรคภูมิใจไทยจะไม่ทำอะไรที่เป็นการบล็อค หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการทางการเมืองโดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเรื่องนี้มีแต่ข่าวลือเสียงเล่าอ้าง ส่วนจะฟรีโหวตประธานสภาฯหรือไม่ ต้องดูว่าในที่สุดใครเป็นแคนดิเดทประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ส.ส. เราไม่บังคับ แต่ก็ต้องหารือถึงทิศทาง ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร เพราะชื่อที่ปรากฎยังไม่ได้เสนอมาในที่ประชุม
"เราคงไม่ฟรีโหวตแบบไม่ทราบว่าส.ส.จะโหวตอย่างไร คงต้องมีการหารือกันก่อน เราให้อิสระส.ส. แสดงความเห็น ซึ่งผู้บริหารก็ต้องรับฟัง"นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงกรณีมีการเสนอสูตรตั้งรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ เพื่อดึงขั้วส.ว.ร่วมโหวตว่า ไม่ใช่สูตรของพรรค พรรคท่องสูตรอยู่ 3 บท คือ อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้
พร้อมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย เปิดประชุมก็อยู่ในช่วงงบประมาณต้องเปลี่ยนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆตามนโยบาย หากเสียงข้างน้อยก็ไม่ผ่าน รัฐบาลก็ต้องลาออก ถามว่าแล้วใครจะทำสิ่งเหล่านั้น เพราะไม่ได้เป็นความยั่งยืนของบ้านเมือง อีกทั้งย้ำจุดยืนไม่ร่วมงานกับพรรคที่จะแก้ไขมาตรา 112
"วันนี้เขากำลังฟอร์มรัฐบาลเสียงที่มากพอ พรรคภูมิใจไทยจึงอยู่นิ่งให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล เราปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างเรียบร้อยก่อนไม่ว่าจะจัดตั้งได้หรือไม่ได้"
ส่วนสูตรเสียงข้างน้อยแล้วดึงงูเห่ามาเสริมทีหลัง นายอนุทิน กล่าวว่า หมดแล้ว ยุคสมัยนี้ไม่มีแล้ว นึกไม่ออกถ้าทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก