นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา วันที่ 3 ก.ค.ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในเวลา 17.00 น. โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ตลอดจน ส.ส. และส.ว. ซึ่งตนได้ลงพื้นที่ตรวจดูความพร้อมของสถานที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการรายงานตัวของ ส.ส.ใหม่ ทราบว่าใกล้จะครบแล้ว โดยจะได้ประสานไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพราะในวันที่ 4 ก.ค. จะมีการประชุมสภาฯ เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงเวลา 09.00-09.30 น. ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดทประธานสภาฯ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยจะเป็นการประชุมลับ และลงมติลับ
ส่วนวิธีการลงคะแนนโหวต สามารถทำได้ 2 แบบ แบบแรก คือ การกดปุ่มแสดงตน แต่วิธีนี้สามารถค้นหาย้อนหลังได้ว่าใครเลือกใคร ส่วนวิธีที่ 2 เป็นการหย่อนบัตร ซึ่งวิธีนี้อาจจะใช้เวลานาน ซึ่งต้องดูอีกทีว่ารัฐสภาจะใช้วิธีไหน
ส่วนการกำหนดวันโหวตเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี จะเลื่อนออกไปอีกหรือไม่นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของตน ตนไม่สามารถจะสั่งการได้ หากสภาฯ พร้อมเมื่อใดก็ขอให้แจ้งมา ก็จะดำเนินการไปตามนั้น
"การโหวตเลือกประธานสภาฯ ยังเป็นวันที่ 4 ก.ค. ยกเว้นหัวหน้าพรรคการเมืองจะมีข้อตกลงกันใหม่ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ขณะนี้ เชื่อว่าจะไม่เปลี่ยน และวันนั้นจะมีการโหวตเลือกรองประธานสภาฯ อีก 2 คนด้วย" นายพรเพชร กล่าว
ทั้งนี้ นายพรเพชร ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงกรณีคุณสมบัติของประธานสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัยวุฒิ หรือคุณวุฒิ เพราะการเลือกประธานสภาฯ แต่ละครั้ง มีเหตุผลแตกต่างกันไป
"หลักที่ปฏิบัติกันมาตามปกติ ประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคที่มีเสียงข้างมาก แต่บางครั้ง ก็ไม่เป็นอย่างนั้น แต่มันก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเขาก็ต้องอธิบายได้" นายพรเพชร กล่าว
นายพรเพชร ยังเชื่อว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ของบรรดา ส.ว. จะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันแน่ เพราะต่างคนก็ต่างมีวุฒิภาวะ และมีความคิด มีเหตุผลเป็นของตัวเอง พร้อมมองคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีว่า ต้องเป็นทั้งคนดี และคนเก่ง สามารถนำพาประเทศชาติให้มีความมั่นคงได้
"เลือกคนดีคนเก่ง นี่เป็นหลักอย่างหนึ่ง ดีและเก่งสามารถนำพาประเทศชาติ ให้มีความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตย ผมย้ำมาโดยตลอด ขอให้ ส.ว. ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เลือกคนที่มีความรู้ความสามารถ และที่สำคัญต้องคำนึงถึงประเทศชาติ" นายพรเพชร ระบุ
ส่วนที่มีกระแสสังคมกดดันให้เลือกนายกรัฐมนตรี จากฝั่งของรัฐบาลเสียงข้างมากนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนต้องการให้พรรคที่ตัวเองเลือกเข้ามาได้สมประสงค์ แต่ก็ขอให้อยู่ในขอบเขต