นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า การตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธาว่า ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้น ส.ว.มีสิทธิที่จะตรวจสอบ ได้ เพราะตามมาตรา 272 ที่กำหนดให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ทั้งนี้บทบัญญัติได้โยงมาตรา 159 พ่วงกับต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม มาตรา 160 ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ว.ตามมาตรา 82 เข้าชื่อ 1 ใน 10 ของสมาชิกวุฒิสภา 250 คนหรือ 25 เสียง เข้าชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องทำก่อนการโหวตนายกฯ โดยขณะนี้ ส.ว.อยู่ระหว่างหารือเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ดีในประเด็นคุณสมบัติของนายพิธานั้นยังมีอีกช่องทาง คือ กกต.สามารถดำเนินการได้ เพราะมีอำนาจ หากไม่ทำจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
โดยในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) กมธ.ได้นัดเข้าพบนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อสอบถามถึงการดำเนินการของ กกต.เกี่ยวกับการไต่สวนข้อร้องเรียนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีรู้ตัวว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังยินยอมให้พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งส่อขัดกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 151 หรือไม่
ในการทำงานของ กมธ.นั้นได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวโยงกับการถือหุ้นไอทีวี แม้ล่าสุดนายพิธาจะโอนหุ้นดังกล่าวไปแล้ว แต่จากการตรวจสอบของ กมธ.ที่ได้รับเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีครอบครองที่ดิน พบว่านายพิธา ในฐานะผู้จัดการมรดกได้ดำเนินการโอนที่ดิน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้กับตนเองฐานะทายาทแล้วตั้งแต่ปี 2560 แสดงว่านายพิธาในฐานะผู้จัดการมรดกได้จัดการแบ่งมรดกให้ทายาทแล้วตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งอาจจะรวมถึงเรื่องหุ้นไอทีวีด้วยเช่นกัน และคงไม่ถือครอง โดยไม่ดำเนินการใดๆ มาถึง 17 ปี
"กรณีที่นายพิธาโอนหุ้นไอทีวีให้ทายาทไปเร็วๆ นี้ ไม่สามารถปฏิเสธพฤติกรรมของตนเองได้ เพราะเมื่อนำกรณีการโอนที่ดินปราณบุรีให้ตนเองในปี 2560 แสดงว่าการจัดการมรดกอื่นๆ ต้องจัดการไปแล้วเช่นกัน อีกทั้งในประเด็นเรื่องหุ้นไอทีวีนั้น นายพิธาได้ใส่ชื่อของตนเองมาตั้งแต่ช่วงปี 2549- 2550 เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีประเด็นคำพิพากษาของศาลฏีกาที่ตัดสินว่ามรดกตกทอดถึงทายาททันทีที่เจ้าของทรัพย์มรดกกนั้นตาย ทำให้กรรมสิทธิในทรัพย์ ซึ่งหมายถึงมรดกนั้นตกสู่ทายาททันที" นายเสรี กล่าว
โดยการพบกับ กกต.ดังกล่าว ตนได้นำเอกสาร รวมถึงผลการตรวจสอบมอบให้กับ กกต.ไปพิจารณาด้วยเช่นกัน
นายเสรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา มั่นใจว่า เสียง ส.ว.จะสนับสนุนให้ได้เป็นนายกฯ ตามเกณฑ์ 376 เสียง ว่า หากเสียงถึง 376 ก็ได้เป็น ไม่ได้ห้าม แต่ทราบว่ามี ส.ว.ที่สนับสนุนไม่เกิน 5 คนเท่านั้น ส่วนส.ว.ที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะสนับสนุน เช่น นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายตวง อันทะไชย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนนท์ ไม่เคยบอกชื่อว่าเป็นนายพิธา บอกแค่ว่าหากสภารวมเสียงข้างมากมาเสนอเท่านั้น