นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลื่อนประชุมหาข้อสรุปประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลว่า ขณะนี้คงต้องเป็นการคุยรายละเอียด ซึ่งตนเชื่อว่าจะคุยกันรู้เรื่อง และมั่นใจว่าจะไม่มีการพลิกขั้ว อย่างไรเพื่อไทยและก้าวไกลก็จับมือไปด้วยกัน จนกระทั่งไปถึงปลายทาง ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนการเจรจายังไม่จบ ซึ่งเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ยังมีเวลาอีก 3-4 วัน เชื่อว่าการเจรจาจะออกมาด้วยดี ไม่มีประเด็นอะไรมาหยุดยั้งการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยได้
พร้อมยืนยันจุดยืนพรรคเพื่อไทยว่า เราไม่ทรยศ ซึ่งพูดมาตลอดมาว่าเราเคารพเสียงของประชาชน และเราฟังทุกเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงของส.ส.หรือคณะกรรมการบริหาร ตนคิดว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือเรือธงต้องไม่เปลี่ยน คือฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อจะได้มีรัฐบาลใหม่มาบริหารจัดการประเทศและช่วยเหลือประชาชน
นายเศรษฐา เชื่อว่า ทั้ง 2 พรรคจะคุยกันรู้เรื่อง แม้ว่าการตกลงจะออกมาทางใดทางหนึ่ง แต่เป้าหมายหลักจะไม่เสีย
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลมีการเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เป็นแคนดิเดทประธานสภาฯ และมีการแสดงวิสัยทัศน์ จนถูกมองว่าออกตัวแรงไปแล้วนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่ามองว่าเป็นการออกตัวแรง เขามีความชัดเจนมากกว่า เขาคงมีการโหวตกันภายในเป็นไปตามครรลองของพรรค และยืนยันว่าการเลือกประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะมีการเปิดรายชื่อประธานสภาฯ เมื่อไหร่นั้น ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค และมั่นใจว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี จะได้รับฉันทามติโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยหลังหายป่วยโควิด-19 เพื่อหารือส่วนตัวกับนายเศรษฐา โดยระบุว่า วันนี้ขอไม่คุยเรื่องการเมือง