นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย แสดงความเห็นถึงปัญหาความขัดแย้งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยว่า เกมนี้ถูกจุดจากพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ ด้วยการประกาศกลับไปต่อรองสูตรเดิม 14+1 กับพรรคก้าวไกล จึงทำให้ต้องเลื่อนการประชุมระดับหัวหน้าพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลออกไปจากเช้าวันนี้ แต่ภาพรวมถือว่ายังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรอง ยังไม่ถึงที่สุด
หากพรรคเพื่อไทยต้องการเดินให้สุด หรือ ฉีก MOU ก็ต้องประกาศให้ชัดเจน ถ้าให้ดีก็ควรประกาศก่อนวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งมองว่าถ้าเพื่อไทยเปิดเกมนี้ก็คงถอยลำบาก เนื่องจากพรรคก้าวไกลคงไม่ยอม เพราะถือว่ามีความชอบธรรมในฐานะพรรคอันดับ 1 และได้แสดงจุดยืนออกมาอย่างชัดเจนแล้ว ด้วยการเปิดตัวแคนดิเดทประธานสภาฯ ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่ให้กับสังคม
ดังนั้น โอกาสที่เห็นพรรคเพื่อไทยฉีก MOU มีโอกาสสูง ซึ่งถ้ามีการฉีก MOU ก็น่าจะเข้าแผนไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ส่วนจะเข้าทางเป็นเงื่อนไขให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน และพานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับบ้านหรือไม่นั้น นายธนพร กล่าวว่า ก็มีโอกาสเข้าเกมนี้ได้ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคก้าวไกล แต่ทำให้โมเมนตัมกลับไปที่พรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไร
นายธนพร กล่าวว่า เคยฟันธงไปแล้วว่าถ้านายทักษิณจะกลับบ้านก็ต้องเดินเกมแบบนี้ เพราะความต้องการของนายทักษิณ ย่อมเหนือกว่าคนที่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะนายทักษิณเป็นเจ้าของพรรค และพรรคเพื่อไทยไม่ผิดที่ต้องดูแลเจ้าของพรรค ความต้องการเจ้าของพรรคต้องมาก่อน ส่วนผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมรับ ซึ่งคิดว่าพรรคเพื่อไทยคงมีแผนรองรับไว้แล้ว แต่ถ้านายทักษิณกลับบ้าน สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ เลิกเล่นการเมือง รวมไปถึงคนในตระกูลชินวัตรทั้งหมด
"ถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจเดินเกมนี้ มันต้องข้ามขั้ว แต่รัฐบาลผสมหลายๆพรรค มันก็มีความเสี่ยง"นายธนพร กล่าว