พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการปฐมนิเทศส.ส.ใหม่ ถึงการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฏรว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเลย ต้องคุยกันในวันที่ 4 ก.ค.
ส่วนการจับขั้วใหม่ทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ มีสัญญาณอะไรหรือไม่ โดยพล.อ. ประวิตร จะไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีพูดคุยกับพรรคการเมืองใด หรือกับกลุ่มไหนในเรื่องดังกล่าว
"ข่าวก็คือข่าว ต้องไปถามคนปล่อยข่าว ผมบอกแล้วไงว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นของผม"พล.อ.ประวิตรตอบ
สำหรับในขั้วการเมืองเดิมยังพูดคุยกันและยังคงจับมือกันเหมือนเดิมใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครได้เสียงข้างมาก ในทางการเมืองก็ดำเนินการตามขั้นตอนกันไป เมื่อถามย้ำว่า แต่เสียงข้างน้อยยังคงจับมือกันเหมือนเดิมใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดการแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ บ้างหรือยัง พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่งหรือไม่ และถ้าต่างขั้วทางการเมืองจะสามารถจับมือกันได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามพร้อมส่ายหน้า
ในวันนี้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ และประชุมเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของพรรคและสมาชิก โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ เป็นประธาน
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ว่า ก่อนอื่นตนขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ รวมไปถึงคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการนโยบาย รวมไปถึงสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐทุกคน ตนและคณะกรรมการบริหารพรรคขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ทุกท่านด้วยความยินดียิ่งที่ท่านได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมามีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากกว่าทุกครั้ง จากข้อมูลการเลือกตั้งมีพรรคการเมืองมาเสนอให้กับพี่น้องประชาชนเลือกถึง 67 พรรค และมากกว่า 4,000 หน่วย 400 เขตเลือกตั้ง ซึ่งมีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 75% สูงที่สุดในประวัติการณ์ แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 4 ก็ตาม แต่ก็ได้รับเลือกตั้งมาเป็นตัวแทนประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นกรุงเทพมหานคร จึงถือได้ว่า พวกเราได้รับความศรัทธาจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะ ส.ส.ที่ได้นั่งอยู่ในห้องนี้ผ่านการแข่งขันที่รุนแรงอย่างมาก แต่ก็เอาชนะมาได้ เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องนำผลการเลือกตั้งไปปรับปรุงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ตนได้แถลงขอบคุณประชาชนทั้งประเทศที่ให้ความไว้วางใจในพรรค พปชร. ไปแล้วตั้งแต่ในวันที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้ง และตอนนี้ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ทำงานอยู่ร่วมกันอย่างเหน็ดเหนื่อย รวมไปถึงผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคน ทุกเขตที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทำงาน และมีส่วนร่วมสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างดี
"ถึงวันนี้พรรคพลังประชารัฐของเราจะต้องเดินไปข้างหน้าตามอุดมการณ์ ตามเจตจำนงของพรรคที่ขออาสาเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นพรรคการเมืองของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมขอยืนยันว่าจะดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอดชีวิตของผม เท่าที่ผมมี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าผมจะลาออกหรือไปที่ไหน อย่างไรก็จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐตลอดไป"พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หลังจากพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 3 ก.ค.จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธาน สภาฯในวันที่ 4 ก.ค. จากนั้นจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการจัดตั้งรัฐบาลจะออกมาในรูปใดก็ตาม พรรค พปชร. ยังจะเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อรับใช้ประชาชนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
รายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า สำหรับทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรค พปชร. ขณะนี้ยังไม่ได้มีมติออกมาว่าจะโหวตให้กับใคร เพราะต้องรอดูความชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกลว่าจะเสนอบุคคลใด แล้วค่อยมากำหนดว่าพรรคจะโหวตให้ใคร โดย ส.ส.ของพรรคทั้งหมด 40 คน จะโหวตในทิศทางเดียวกันทั้งหมด โดยก่อนการโหวตประธานสภา ในวันที่ 4 ก.ค. จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคที่รัฐสภา เพื่อแจ้งให้ ส.ส.ทราบถึงทิศทางว่าจะโหวตอย่างไร เมื่อมีมติเสร็จแล้วจะเข้าประชุมสภาต่อทันทีเพื่อลงมติเลือกประธานสภาฯ