นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับพรรคก้าวไกล รวมถึงจากการให้สัมภาษณ์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คาดว่าจะได้เสียงสนับสนุน 376 เสียง ส่วนเงื่อนไขหลักของ ส.ว.ในประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 นั้นเชื่อว่ามีไม่เกิน 10 คน ขณะที่ ส.ว.มีถึง 250 คน ซึ่งอาจมีพลังเงียบที่เห็นกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย
หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าจะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน 2 เดือนที่มีการเลือกตั้งไปผลออกมาชัดเจนและ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็รับรองแล้ว แต่ยังไม่มีนายกรัฐมนตรี มันลำบากจะบริหารจัดการประเทศอย่างไร ถ้ามีการเลือกนายกรัฐมนตรีได้เร็วๆ และฟอร์มรัฐบาลได้ภายในต้นเดือน ส.ค. กว่าจะใช้งบประมาณของปี 2567 ได้ก็กลางเดือน มี.ค.67 เลย
"เราเลือกตั้งเสร็จแล้ว เลือกตั้งจบแล้ว เราก็อยากให้การโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เป็นไปได้ด้วยดี ก่อนยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่แตกแถว สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย" นายเศรษฐา ระบุ
สำหรับการแบ่งโควตาของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้นคาดว่ายังอยู่ในการต่อรอง แต่จากที่ได้ยินมาก็น่าจะลงตัวกันหมดแล้ว ส่วนตัวไม่ได้อยู่ในคณะทำงานที่ถกกันเรื่องนี้ ตามความเข้าใจของตนคงเป็นตามที่สื่อเสนอ
ส่วนกระแสข่าว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือน ก.ค.นี้ตนไม่ทราบ แต่ได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่าหากกลับมาก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่กระทบเรื่องของพรรค โดยจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย