นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีพบปะพี่น้องประชาชนที่บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ เมื่อเวลา 18.00 น. โดยระบุว่า ขณะนี้เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้ เหลือเวลาอีกเพียง 4 วันที่จะถึงวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกต่างจับตาการเมืองไทย ในการตัดสินใจของนักการเมืองไทย ทั้งจากสภาล่าง (ส.ส.) และสภาสูง (ส.ว.) ว่าจะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยในช่วงหลังจากนี้เป็นไปในทิศทางใด
"อีก 4 วันที่จะถึงวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะเป็นการตัดสินใจของนักการเมือง สภาล่าง สภาสูง ร่วมกันว่าอีกทศวรรษของการเมืองไทยหน้าตาจะเป็นแบบไหน ถ้าตัดสินใจถูก ประเทศไทยจะไม่เป็นสองรองใคร แต่ถ้าเลือกผิด ฝืนมติประชาชน ทำให้ความไม่ปกติของการเมือง 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ปกติต่อไป ผมไม่รู้ว่าโอกาสทองแบบวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะมาถึงอีกเมื่อไร" นายพิธา กล่าว
พร้อมกับขอส่งข้อความนี้ ไปถึงเพื่อน ส.ส. ว่าเราทุกคนต่างมาจากประชาชน เป็นผู้แทนราษฎรที่ต้องต่อสู้เพื่อประชาชน ทุกคนล้วนเป็นผลลัพธ์ของความไม่ปกติทางการเมือง เพราะผ่านการถูกยุบพรรค รัฐประหาร นิติสงคราม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็สามารถให้โอกาสประเทศไทย และคืนความปกติให้ประชาชนทุกคน ขออย่าพลาดโอกาสนี้ เพราะประชาชนอาจไม่ให้อภัย และหมดศรัทธากับผู้แทน และระบบรัฐสภา ดังนั้นอย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง
ขณะเดียวกัน ยังฝากไปถึง ส.ว.ด้วยว่า แม้ที่มาจะแตกต่างกัน แต่เราคือนักการเมืองของประชาชน ขอชื่นชมความกล้าหาญของ ส.ว.ที่ยืนยันว่าจะเป็นวุฒิสภาของประชาชน และจะลงมติตามรัฐบาลเสียงข้างมาก โดยจะไม่โหวตสวนมติของประชาชน
"โอกาสนี้ คือประวัตศาสตร์ของไทย ที่จะคืนความปกติให้การเมืองไทย ไม่ว่าจะมาจากสภาล่าง หรือสภาสูง ทั้ง 750 คน มีโอกาสคืนความปกติให้การเมืองไทย ให้ประเทศไทยเดินหน้า เท่าเทียม เท่าทันโลกเสียที" นายพิธา กล่าว
พร้อมทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่ฟ้าเปิดแล้ว พอกันทีกับการฝืนธรรมชาติที่ทำให้ฝนตกขึ้นฟ้า ขอให้จากนี้เป็นไปตามธรรมชาติ ตามระบบ และยอมรับว่าตนอาจจะไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่สมบูรณ์แบบ แต่มั่นใจว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ขยันทำงานที่สุด
"ฟ้าหลังฝน ย่อมสวยงามเสมอ ฝนตกนานมากพอแล้ว ถึงเวลาฟ้าเปิด อย่าฝืนธรรมชาติอีกเลย พอกันทีกับการให้ฝนตกขึ้นฟ้า มันฝืนธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ ให้ธรรมชาติเป็นธรรมชาติ ให้ระบบเป็นระบบ ผมอาจไม่ใช่นายกฯ ที่สมบูรณ์แบบ แต่จะเป็นนายกฯ ที่ขยันที่สุด...ผมสัญญาไม่ได้ ว่าการเดินทางของพวกเราจะราบรื่นทุกอย่าง คงมีอุปสรรคบ้าง แต่ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ด้วยกัน รับรองจะคุ้มค่าแน่นอน" นายพิธา กล่าว