รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของ ส.ว.ในการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีว่า จากการเช็คเสียงภายใน พบว่า ส.ว.แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มใหญ่ 90% จะลงมติงดออกเสียง, กลุ่ม 2 สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ โดยกลุ่มนี้คาดว่ามี 5-10 เสียง และกลุ่ม 3 คือ ออกเสียงไม่สนับสนุนชัดเจน
นอกจากนี้ ทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธาน ยังอ้างถึงข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อ 41 ที่ระบุว่า ญัตติใดที่เสนอที่ประชุมรัฐสภา หากไม่ได้รับความเห็นชอบถือว่าตกไป และห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักกการเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ประธานรัฐสภาจะอนุญาตเมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หากกรณีรอบแรก ที่ชื่อนายพิธา ไม่ได้รับเลือกจากรัฐสภา จะไม่สามารถเสนอชื่อได้อีกในการโหวตครั้งที่ 2
โดยหากมีการเสนอชื่อนายพิธา กลับมาอีกในการโหวตรอบ 2 ในวันที่ 19 ก.ค. จะมี ส.ว.ลุกคัดค้านต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยอ้างอิงข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หากประธานรัฐสภา ยังยืนยันให้เสนอชื่อนายพิธาได้ จะต้องรับผิดชอบในกรณีที่มีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 เพื่อให้เป็นเงื่อนไขว่า ประธานรัฐสภาใช้ดุลยพินิจของตนเอง หรือใช้การลงมติของที่ประชุมรัฐสภาตัดสิน รวมทั้งขอให้จับตาว่า จะมีผู้เสนอชื่อแคนดิเดทนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นแข่งขันกับนายพิธาด้วย