นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.กล่าวถึงจุดยืนลงมติเลือกนายกฯ ว่า ยังยืนยันเหมือนเดิม เราก็ต้องชัดเจน เพราะสถานการณ์ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงจนทำให้ต้องไปตัดสินใจอย่างอื่น ถ้าบ้านเมืองเราจะมีนักการเมืองที่มาสร้างความแตกแยก โดยหนุนให้เด็กและเยาวชนไปทำผิดกฎหมาย และละเมิดมาตรา 112 ก็ไม่ควรเป็นรัฐบาลอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ ส.ว.ไม่ได้ก้าวก่ายการจัดตั้งรัฐบาลของ ส.ส.แต่เมื่อขั้นตอนมาถึง ส.ว.ก็ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีนั้นไม่มีผลต่อการโหวต แต่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ส.ว.บางคนที่ชั่งใจอยู่ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกหรือไม่ การประชุมคงไม่เลื่อน มีเลือกแน่นอน แต่อาจจะไม่จบในวันนี้
"การโหวตของ ส.ว. 250 คนในวันนี้ ทุกคนมีคำตอบเรียบร้อยแล้ว คือการปิดสวิตช์ ส่วนใหญ่จะงดออกเสียง ยกเว้นผม เพราะที่ผ่านมาเห็นพฤติกรรมชัดเจน ทั้งไปแตะต้ององค์กรอิสระ ทหาร ตำรวจ รวมถึงด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถือเป็นภัยใหญ่หลวงของประเทศ จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากมาย ทำไมต้องไปเทข้างให้กับอเมริกา ไม่คิดถึงใจของจีนและรัสเซีย และซาอุดิอาระเบียที่เราเพิ่งจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกลับคืนมา" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
กรณีที่ผู้ชุมนุมประกาศจะสร้างความวุ่นวายในประเทศหากนายพิธาไม่ผ่านการโหวตในวันนี้ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ถ้ากลัวและไม่กล้าตัดสินใจ ตนก็ไม่มาเป็น ส.ว.หรอก เชื่อว่ามี ส.ว.ไม่ถึง 10 คนที่สนับสนุนนายพิธา
"วันนี้ผมเชื่อว่าจะมีการเสนอโหวตนายพิธาเป็นนายกฯ เพียงคนเดียว แต่ผมขอให้จับตาวันที่ 19 กรกฎาคม สนุกสนานเลือดท่วมจอแน่นอน ขอให้คอยดู ที่ผมพูดคือละครนะ แล้วไม่ห่วงว่าจะต้องขึ้นเรือหนีอีก วันนี้ผมเตรียมรองเท้าผ้าใบมาแล้ว เดี๋ยวจะถอดเครื่องแบบ หนีไปกับสื่อนี่แหละ และเชื่อว่าในวันที่ 19 กรกฎาคม ทุกอย่างจะจบ ได้ว่าที่นายกฯ ส่วนใครจะเป็นพระเอกในวันนั้น มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศที่สาม แต่จะถูกใจประชาชนหรือไม่ผมไม่ทราบ" นายกิตติศักดิ์ กล่าว