นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเปิดสมรภูมิใหม่ของพรรคก้าวไกล เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เป็นการเสนอประเด็นที่อยู่นอกเหนือ MOU ที่ 8 พรรคเซ็นร่วมกัน การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่าจะต่อสู้จนกว่าจะประสบความสำเร็จจนไม่สามารถไปต่อได้แล้ว แล้วจะมอบอำนาจให้กับพรรคอันดับ 2 นั้น การพูดเช่นนี้ฟังดูดี
แต่ทั้งนี้ การโหวตนายกฯ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ทั้ง 2 ประเด็น เชื่อว่ายากลำบาก และไม่มีกรอบเวลาชัดเจน การเปิดวาระใหม่ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอนอกเหนือ MOU เพราะการแก้ไขมาตรา 272 เคยพูดแล้วว่าเป็นได้เพียงสัญญลักษณ์ ไม่ได้รับชัยชนะ
"การที่นายพิธา และพรรคก้าวไกลนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน ไม่ใช่วาระของทั้ง 2 พรรค เราตกลงกันว่าจะกลับไปคุยในพรรคตัวเอง แต่ที่นายพิธาออกมาพูดเช่นนี้ เหมือนมัดมือชกเรา เราจึงจำเป็นต้องออกมาพูดความจำเป็น และความเป็นจริงให้ทราบ" นายภูมิธรรม ระบุ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการหารือกับพรรคก้าวไกลวันนี้ พรรคเพื่อไทยจะเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ว่าวาระประเทศและวาระประชาชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่วาระของพรรคก้าวไกล หรือวาระของนายพิธา เพราะวันนี้ภาคธุรกิจอยากได้รัฐบาลที่ชัดเจน ภาคการท่องเที่ยวอยู่ในฤดูกาลท่องเที่ยว เป็นโอกาสนำเงินเข้าประเทศ ปัญหาต่างๆ ไม่สามารถแก้ไขได้ ถ้ายังไม่มีรัฐบาลตัวจริง ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ
"ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาด ประชาชนจะลำบาก ต้องอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไปอีกนาน และจะรักษาการไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตัดสินใจถูกต้อง ปัญหาจะคลี่คลาย อยากให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลนำไปคิด พรรคเพื่อไทยขอให้เอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วหาทางออกร่วมกันอย่างรวดเร็ว เพราะเราห่วงโรคแทรกซ้อน หากรัฐบาลเดิมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราจะสู้เขาไม่ได้ เพราะเขามี 188 เสียง และส.ว.อีก 250 เสียงสามารถตั้งรัฐบาลได้เลย เราต้องอยู่กับลุงไปอีก 4 ปี ประชาชนยินดีเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ยินดี ก็ต้องหาทางออก" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ
นายภูมิธรรม ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแผนสำรอง มีแผนแรกแผนเดียว คืออยากจับมือกับ 8 พรรคร่วมเดินหน้าไปให้ถึงที่สุด แต่ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้มีการโหวตเลือกนายกฯ ไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าประเทศจะมีทางออกอย่างไร
"เรารอไปถึงต้นปีหน้าไม่ได้ เพราะปัญหาประเทศตอนนี้รุนแรงมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องแคนดิเดทนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย หากวันไหนชัดเจนที่ให้พรรคเพื่อไทยเสนอ เราสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่วาระสำคัญ เราไม่คิดเรื่องนี้ก่อน เราคิดถึงการหาทางออกให้กับประเทศ โดย 8 พรรคการเมืองเสนอนายพิธา ถ้าไม่ได้ จะมีวิธีไหนที่ 8 พรรค จะดำเนินการร่วมกันให้ชนะ
สิ่งที่ผมพูด อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจของใครก็ตาม อาจมีรถทัวร์ลงก็ได้ แต่ผมคิดว่าเรายืนอยู่บนความเป็นจริง และอยากให้ความเป็นจริงประสบความสำเร็จ เราไม่อยากเห็นความเชื่อทำให้เกิดความจริง เราอยากเห็นความจริง เอามาคลี่คลาย และทำให้ความเชื่อประสบความสำเร็จ" นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนกรณีมีกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ไปพูดคุยกับรัฐบาลเดิม นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มีข่าวลือมาก เราได้ยินข่าวดังกล่าว แต่เมื่อเป็นข่าวลือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ สิ่งที่สำคัญคือกลับไปตรวจสอบคนของตัวเอง เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรื่องการแจกกล้วย เรื่องงูเห่าเคยเกิดมาแล้ว เราเสนอให้เกิดการระมัดระวัง เราต้องให้เกียรติ ส.ส.ทั้ง 2 พรรค และในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ให้แกนนำแต่ละส่วนไปพูดคุยกับ ส.ส. เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น