นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงกระแสกดดันสมาชิกวุฒิสภาในรูปแบบต่างๆ หลังจากไม่โหวตเห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีว่า พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทยมาเป็นเวลานานพอสมควร เป็นพฤติกรรมแสดงออกซึ่งความก้าวร้าว แสดงออกด้วยการให้ร้ายคนอื่น ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ทำให้คนเกิดความเกรงกลัว และก้าวล่วงใช้ถ้อยคำต่างๆ ที่ไม่ควรและผิดกฏหมายต่อสถาบันหลายครั้ง และทำให้เห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้สังคมอ่อนแอ การบังคับใช้กฏหมายไม่มีใครเกรงกลัว ทุกคนจะว่าใครก็ได้ อยากจะพูดอะไรก็ได้ หากไม่พอใจหรือไม่เห็นด้วยกับฝ่ายที่เห็นต่าง ก็จะแสดงพฤติกรรมที่ให้ร้ายคนอื่น
"มีหลายครั้ง การที่ไม่เห็นด้วย หรือเห็นตรงข้ามกัน ก็ไปลงกับคนหลายกลุ่ม เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง ที่มีความเห็นต่อบ้านเมือง เมื่ออีกฝ่ายไม่พอใจก็ไปกระทำการอันธพาล ทำให้คนกลุ่มเหล่านี้ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ และสิ่งเหล่านี้ มันลามไปทุกพื้นที่" นายเสรี กล่าว
พร้อมเชื่อว่า คนที่ทำเรื่องเหล่านี้มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง คอยยุยงส่งเสริมให้เด็กทำผิดกฏหมาย อ้างสิทธิเสรีภาพ หรืออ้างว่า เป็นสิทธิที่ทุกคนสามารถแสดงออกได้ จาบจ้วงดูหมิ่นสถาบัน
"ถึงเวลาที่ต้องแสดงออกให้ชัดเจนว่า ส.ว.ไม่ทนแล้ว ไม่ทนต่อพฤติกรรมที่เลวร้ายแบบนี้ ทำลายชาติ ทำลายสังคม ทำลายวิถีชีวิตที่ดีงามของสังคมไทย ต่อไปลูกเด็กเล็กแดงก็จะเลียนแบบ พ่อแม่ไม่เคารพแล้ว เพราะทุกคนเรียกคุณเหมือนกันหมด เป็นการทำลายขนบธรรมเนียมประเพณี และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน" นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวว่า วันนี้จะเริ่มต้นดำเนินคดีกับคนที่ให้ร้ายและดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่น ไม่เห็นความสำคัญเสรีภาพคนอื่น โดยได้ไปยื่นฟ้องแล้วเมื่อเช้านี้ 2 คดี ซึ่งคนที่ถูกฟ้อง คือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา และนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น เพื่อให้สังคมได้ตื่นว่าเสรีภาพเป็นของทุกคน ใครละเมิดด้วยถ้อยคำพูดที่รุนแรง ย่อมต้องรับผิดชอบ และต่อไปเราจะดำเนินคดีกับคนที่กล่าวให้ร้าย ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียลหรือไม่ บางคนเข้าใจผิดคิดว่า ไม่ใช่คำหมิ่นประมาท ไม่ใช่ถ้อยคำด่า แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เสียหาย และหากไม่ผิดทางอาญา ก็ต้องผิดทางแพ่ง เพราะไม่สิทธิ์ไปด่าใคร ไม่มีสิทธิ์ไปเอ่ยชื่อใคร ทำให้เสียหาย
"ในโซเชียลทั้งหลาย เราจะตรวจสอบให้หมด ใครไปทำร้ายกิจการส.ว. ใครไปทำร้ายกิจการงานของใคร เราจะดำเนินคดีให้หมด และเราจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดี กับคนที่ปากอยากจะพูดอะไรก็ได้ ให้ร้ายหรือทำให้คนอื่นเสียหาย สังคมจะได้ตื่นตัว จะได้รับผิดชอบด้วยกัน เราต้องกล้าต่อสู้กับคนพวกนี้ อย่าไปกลัว สังคมจะเสื่อม...ต่อไปนี้เราจะไม่ทนให้มาแสดงพฤติกรรมในเชิงให้ร้าย ไม่ว่าส่วนบุคคลก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบัน ใครออกมาตอนนี้ เราจะตรวจหมด และจะดำเนินคดีกับทุกคนไม่เว้น" นายเสรี กล่าว
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า การที่มีการสื่อสารกันว่าให้ใช้ทุกช่องทางสื่อสารไปยังสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเรียกร้อง กดดันให้โหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการสื่อสารที่ผิด และเห็นตรงกันว่า จะไม่ปล่อยให้สภาพสังคมเป็นแบบนี้ ที่ปล่อยให้มีการคุกคามไปถึงครอบครัวของ ส.ว.
พร้อมย้ำว่า จะมีการดำเนินคดีทางทั้งอาญาและทางแพ่ง ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทางแพ่งกับบางเพจแล้ว รวมถึงบุคคลต่างๆ ที่ปลอมตัวอยู่ในโซลเชียลก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ต้องมีการนำดอกไม้มาขอโทษ หรือขอขมา ถือเป็นราคาแพงที่ต้องจ่าย เพราะทำให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อครอบครัว