นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อแจ้งว่าได้รับทราบคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องขอให้วินิจฉัยสถานภาพ สส. กรณีการถือหุ้น บมจ.ไอทีวี และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย จึงขอน้อมรับคำสั่งด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ตั้งแต่บัดนี้ จนกว่าจะพบกันใหม่
"ฝากเพื่อนๆ สมาชิกในการใช้รัฐสภาในการดูแลประชาชน ผมคิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ 14 พ.ค. และประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง แม้ว่าผมจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคน ช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป"
จากนั้นได้ถอดบัตร ส.ส. วางบนเคาน์เตอร์ โบกมือให้ที่ประชุม และเดินออกจากห้องประชุมรัฐสภาไป ท่ามกลางเสียบปรบมือของบรรดาสมาชิกรัฐสภา
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ลดจำนวนสมาชิกรัฐสภาจาก 749 เป็น 748 คน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมรัฐสภายังคงดำเนินการอภิปรายก่อนจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจาก สส.พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นเสนอชื่อนายพิธา ในฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล เพื่อให้ลงมติเป็นครั้งที่ 2 ขณะที่ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ คัดค้านเนื่องจากเห็นว่าเป็นการเสนอญัตติซ้ำ ขัดต่อข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ซึ่งรัฐสภาอยู่ระหว่างการอภิปรายความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ซึ่งดำเนินมากว่า 4 ชั่วโมงแล้วยังไม่ได้ข้อยุติ
นายพิธา ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า "เป็นที่ชัดเจนแล้ว ในระบบปัจจุบัน ชนะความไว้วางใจจากประชาชนไม่เพียงพอที่จะบริหารประเทศชาติ ต้องขออนุมัติจากวุฒิสภาก่อน เผลอๆ ไม่พอที่จะเสนอชื่อเป็นครั้งที่ 2 ด้วยซ้ำไป"