8 พรรคให้สิทธิ "เพื่อไทย" ดึงพรรคอื่นร่วมตั้งรัฐบาล กดดันก้าวไกลถอย 112 เปิดช่องพลิกขั้ว

ข่าวการเมือง Friday July 21, 2023 17:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลว่า ที่ประชุมมีมติ 3 แนวทาง ดังนี้

  • ให้ส่งแคนดิเดทของพรรคเพื่อไทยเข้าโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค. โดยพรรคก้าวไกล จะเป็นผู้เสนอชื่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะไปดำเนินการคัดเลือกภายในก่อนคาดว่าจะประกาศชื่อได้ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้
  • ให้ไปดำเนินการขอเสียง สว.ให้ครบจำนวนที่ต้องเติมเข้ามาให้ถึง 375 เสียง หรือเพิ่มอีก 63 เสียง โดยในส่วนประเด็นมาตรา 112 ที่ สว.ได้เคยตั้งเงื่อนไขไว้นั้น ทางพรรคเพื่อไทยจะไปพูดคุยกับ สว. เพื่อรับฟังข้อเสนอแล้วนำมามาคุยกับทางพรรคก้าวไกล ถ้าหาเสียง สว.ไม่เพียงพอจะให้สิทธิเพื่อไทยเจรจากับพรรคอื่นเพื่อให้ได้เสียง สส. เข้ามาเพิ่ม
  • ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยดำเนินแนวทางอื่นๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุม 8 พรรคได้หยิบยกประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ขึ้นมาหารือ หลังจากมีหลายฝ่ายระบุว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ไม่สนับสนนให้พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ให้แนวทางไว้ว่าอยากได้รายละเอียดว่าการลดเพดานคืออะไร จึงมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยพูดคุยกับ สว.เพื่อสอบถามเงื่อนไขต่างๆ แล้วนำกลับมาแจ้งเพื่อจะไปพิจารณากันภายในพรรค

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ทางพรรคก้าวไกลคงต้องดูรายละเอียด ซึ่งในฐานะพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพก็ได้ให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับ สว.ว่า รูปแบบไหนที่จะเป็นการปลดล็อกความไม่สบายใจของทุกคน และแนวทางที่จะสามารถตั้งรัฐบาลได้เป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลยืนยันความเห็นว่าการที่หลายพรรคตั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับมาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อไม่ให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล แต่พรรคยังยืนยันเป้าหมายสูงสุดคือประชาชนต้องการเปลี่ยนขั้ว ดังนั้นในฐานะที่พรรคก้าวไกลได้เสียงเป็นอันดับ 1 เราพยายามที่สุดให้ถึงเป้าหมายนั้น ส่วนเรื่องรายละเอียดต้องมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการเรื่องเหล่านี้

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ท่าทีจากพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา ประกาศไม่เอาพรรคก้าวไกลนั้น ท่าทีพรรคการเมืองอื่นๆ กรณีที่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่เราก็จะไปพูดคุยด้วย แต่ถ้าเป็นแนวทางนอกเหนือ 8 พรรคร่วมกำหนดไว้ ที่ประชุมก็ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยไปพิจารณา

นพ.ชลน่าน ยอมรับว่า ทางเลือกที่ 1 การขอเสียง สว.เป็นทางเลือกดีที่สุด ทางเลือกที่ 2 คือการหาคะแนนจากสส. พรรคอื่น ซึ่งทุกทางเลือกเรามีพรรคก้าวไกลอยู่ในการจัดต้งรัฐบาล

ส่วนพรรคเพื่อไทยให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่ตั้งรัฐบาลกับขั้วรัฐบาลเดิม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่แถลงไปในวันนี้ คือคำมั่นสัญญาที่เราพยายามจะทำให้ดีที่สุด ที่เราได้ยึดมั่น 8 พรรคร่วม

"มาตรการอื่นๆ นอกเหนือการจับมือกับ 8 พรรคร่วม เราเพียงแต่ได้สิทธิจาก 8 พรรคร่วมให้พรรคเพื่อไทยไปดำเนินการ นั่นคือ สิ่งที่เพื่อไทยคิด เพื่อไทยทำ หลังจากกระบวนการทั้งหมดไม่เกิดขึ้น ความหมายคือ การดำเนินการของ 8 พรรคร่วมไม่เป็นผลสัมฤทธิ์แล้ว เพื่อไทยก็ได้สิทธิไปดำเนินการ"นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทางเลือกที่ 3 เป็นทางเลือกอื่นๆ ความหมาย คือ ไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นการร่วมกันของ 8 พรรคร่วม ซึ่งอาจไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งในสมการนี้ หรือในการจับมือนี้ ซึ่งสิทธิ์ตรงนี้พรรคเพื่อไทยได้รับมอบจากที่ประชุมให้ไปดำเนินการ และให้นำมาปรึกษาหารือ ส่วนอะไรทำให้ถึงสมการที่ 3 คือ ทางเลือกที่ 1-2 ไม่สำเร็จ

ส่วนเงื่อนไข "มีเราไม่มีลุง" อยู่ในสมการนี้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราพยายามแนวทางที่ 1-2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน อย่างอื่นยังไม่พูด

สำหรับกรอบเวลาของแนวทางที่ 1-2 อย่างช้าที่สุดคือวันที่ 25 ก.ค. เพราะวันที่ 26 ก.ค.ต้องประกาศชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยแล้ว หากวันที่ 26 ก.ค.การเดินแนวทางที่ 1 และ 2 ยังไม่สำเร็จ อาจมีพลิกแผนจาก MOU หรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แนวทางที่ 3 เป็นแนวทางที่ต้องแสวงหาเพื่อให้ได้คะแนนในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ต้องไปดูข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นตอนนั้น

ส่วนความกังวลว่า แคนดิเดตที่เสนอไปจะโหวตซ้ำไม่ได้อีก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องมีกระบวนการก่อนวันที่ 27 ก.ค. เราต้องมั่นใจว่า ต้องได้รับการสนับสนุนเกิน 375 เสียงขึ้นไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย โดยหลักการของพรรคจะไปเจราจาอย่างเป็นทางการ ไม่มีการแอบหรือปิดบัง

"แม้เปลี่ยนพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เรายังยึด MOU 8 พรรคร่วม แต่เมื่อไปดำเนินแล้ว อะไรจำเป็นต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน" นพ.ชลน่าน กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึง สว.และพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่เห็นด้วยกับมาตรา 112 ว่า ทางสว.บอกว่า ถ้ามีพรรคก้าวไกลก็ไม่เอาด้วย ทางพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา และพรรคอื่นๆ ก็บอกว่า ถ้ามีพรรคก้าวไกลก็ไม่เอาด้วย

พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยู่ร่วมกันมาตลอด การที่พรรคเพื่อไทยตัดเยื่อใยทันทีคงไม่ถูก เพราะฉะนั้นพรรคเพื่อไทยต้องรักษาพรรคก้าวไกลเอาไว้อยู่ด้วยกัน โดยพรรคก้าวไกลก็ต้องสนับสนุนเพื่อไทยง จะได้ไม่หนักใจในการไปหา สส. สว. มาเพิ่ม

"ควรเป็นเรื่องที่ก้าวไกลต้องตัดสินใจ จะทำอย่างไร ถ้ายังยืนยันอยู่ เพื่อไทยก็ไม่ผ่าน แต่ถ้าเสียสละก็พอไปได้ ก็เปรียบเสมือนเรืออยู่กลางทะเล เรือมันล่ม มีคนแก่ มีเด็กผู้หญิง แล้วเราคนหนุ่มต้องขึ้นเรือก่อนหรือ เราต้องให้คนแก่ เด็ก ผู้หญิงขึ้นไปก่อน เรายอมเสี่ยงภัยไปเสียก่อน เมื่อเรือลำที่ 2 มาค่อยไป ไม่ใช่หนุ่มกระโดดขึ้นเรือก่อน ปล่อยให้ผู้หญิง ให้เด็กเผชิญกรรม แบบนี้มันไม่ได้ ตอนนี้ต้องมีผู้เสียสละเพื่อให้ประชาธิปไตยไปได้ ถ้าไม่มีการเสียสละไปไม่ได้ เชื่อผมเถอะ"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ