นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และรักษาการหัวหน้าพรรค กล่าวภายหลังการร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและหาทางออกของประเทศ กับพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ 2 ว่า พร้อมเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และสนับสนุนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่ติดเงื่อนไขการแก้ไขมาตรา 112 ที่เป็นความเห็นต่างในเชิงนโยบาย หากยังมีอยู่คงไม่สามารถเข้าร่วมรัฐบาลได้ เพราะไม่ตรงตามมติพรรคและไม่ตรงกับคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน
"พรรคชาติพัฒนากล้า ยินดีให้การสนับสนุนรัฐบาลจากการเลือกตั้งให้ลุล่วงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ"
นายสุวัจน์ ระบุว่า ถือว่าการหารือในวันนี้เป็นบรรยากาศที่ดีในการแสวงหาทางออกให้กับประเทศนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล การเลือกนายกรัฐมนตรีให้เรียบร้อย เพราะควรมีรัฐบาลโดยเร็ว ไม่ควรมีสุญญากาศนาน เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็รอรัฐบาลใหม่ดำเนินการ
"หลังเลือกตั้งอยากเห็นบรรยากาศที่ทุกพรรคพูดคุยกันได้ เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อก่อนหลังเลือกตั้งทุกพรรคจะแข่งกันจัดตั้งรัฐบาล แต่วันนี้ไม่มีการแข่งจัดตั้งทุกคนให้เกียรติพรรคที่ 1 ไม่เคยมีมาก่อน จนพรรคที่ 1 ไม่ได้ ยังให้ให้พรรคที่ 2 เป็นบรรทัดฐานที่ดี จากนี้ไปการจัดตั้งรัฐบาล หรือการพูดคุยกันอาจมีความเห็นต่างในเชิงนโนบาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเมืองในระดับสากล แต่การพูดคุยกันได้ทุกพรรค เป็นเรื่องที่เราอยากเห็นบรรยากาศว่า เลือกตั้งไปแล้วทุกพรรคช่วยกันการแสวงหาทางออก ถอยกันบ้างเพื่อให้ได้ข้อยุติ ภาพการเมืองมีพัฒนาการที่ดีขึ้น อาจจะช้านิดนึง แต่เป็นความช้าที่ทำให้เกิดคุณภาพของรัฐบาล"