นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยืนยันจุดยืนชัดเจนหากมีพรรคการเมืองใดที่จะแก้รัฐธรรมนูญในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 หรือแก้ไขกฎหมายใดที่จะไปกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ สว. จะไม่สนับสนุน และหากมีการพูดคุยกับคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีบทบัญญัติถึงการทำหน้าที่ของ สว. ที่จะต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ดังนั้นจึงเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ต้องเดินทางมาพูดคุยกับ สว. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่จะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน สว.จะสนับสนุนหรือไม่นั้น นายเสรี ระบุว่า กระบวนการพิจารณาให้ความเห็นชอบ จะต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมตามปกติ พร้อมแนะนำให้พรรคเพื่อไทยรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลให้เพียงพอ และมีนโยบายที่ไม่กระทบต่อสถาบันหลักของชาติ ก็เชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาพร้อมสนับสนุน เพราะมองว่ากระบวนการแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น เป็นข้ออ้างที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น
นายเสรี ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ควรจะเลื่อนออกไปก่อนหรือไม่ หลังกระบวนการเจรจาพูดคุยของพรรคเพื่อไทยยังไม่เสร็จสิ้น โดยระบุเพียงว่า สว. ไม่มีความขัดข้องว่าจะมีการประชุมให้เลือกนายกรัฐมนตรีในวันใด แต่ขอให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไปพูดคุยตกลงกันให้ได้ข้อสรุปก่อน
ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ย้ำว่า มีความชัดเจนที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายการจัดตั้งรัฐบาล แต่จะไม่โหวตสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลทั้งนั้น แต่ถ้าเขาสลัดพรรคก้าวไกล แล้วมาจัดตั้งรัฐบาล และมีชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดทนายกพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมจะโหวตให้ เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้
"ก็จำเป็นต้องโหวตให้ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเดินไปไม่ได้ บ้านเมืองจะต้องมีนายกรัฐมนตรี ต้องมีรัฐบาล ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มีพรรคก้าวไกลนั้น ต่อไปถ้าจัดตั้งได้จริงๆ ก็อยากจะฝากไว้ว่าไม่เกี่ยวกับ สว. ผมขอดักคอไว้ก่อนว่า เดี๋ยว สว.สนับสนุนรัฐบาลนี้ขึ้นมา แล้วไปทำอะไรที่มันไม่ถูกกฎหมายหรือทุจริต สว.ไม่เกี่ยว เพียงแต่ว่าถ้ามีรัฐบาลแล้ว ก็ต้องทำให้ดี ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเจริญรุ่งเรือง ผมหวังอย่างนั้น" นายกิตติศักดิ์ กล่าว
นายอนุสิษฐ คุนากร สว. กล่าวถึงกรณีที่ สว. ออกมาแสดงความเห็นให้เลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค.ออกไป ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร และพรรคที่ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ทางสว. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในส่วนนี้ แม้แต่การเสนอและการรับรองบทบาทของ สส. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทบาทของสว. เรื่องนี้เป็นเรื่องของ สส.โดยตรง
ขณะนี้ เป็นกระบวนการของ สส. ซึ่ง สว.นั้นมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว สส.เองก็มีบทบาทหน้าที่ได้กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ อย่าไปคิดว่า สส.เป็นพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรืออย่าไปคิดว่า สว.มาจากเผด็จการ ขอให้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
สว.เองก็มีหน้าที่ตัดสินใจ และการตัดสินใจของสว.นั้น มีรัฐธรรมนูญรองรับอยู่ ว่าจะต้องตัดสินใจภายใต้เงื่อนไข รักษาชาติ รักษาอธิปไตย และรักษาสถาบันหลักของชาติ ที่มีกำหนดไว้อยู่ในรัฐธรรมนูญ โดยประชาชนได้มอบฉันทามติ ทำประชามติให้เราเข้ามาผ่านรัฐธรรมนูญ ปี 2560
"ดังนั้นจึงอยากทำให้ประชาชน เพื่อนร่วมชาติ ไม่ว่าจะเป็นด้อมส้ม คนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง หรือเป็นคนที่ใส่เสื้อทุกๆ สีนั้นล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น บ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ มองว่าเป็นเรื่องของความสงบเรียบร้อยเอกภาพ และบูรณภาพของสังคมไทย เป็นเรื่องที่สำคัญ" นายอนุสิษฐ กล่าว