นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล แถลงมติที่ประชุม สส.พรรคโดยระบุว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น นายธนกร ย้ำว่า เราพูดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ตอนเลือกตั้งแล้วว่า เราก็ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลเช่นกัน เนื่องจากมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112
สำหรับการประชุม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ วันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) คาดว่าจะมีการพูดคุยในหลายประเด็น โดยจะมีการนำผลการหารือที่ผ่านมากับพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มาพูดคุยกันในที่ประชุมว่าพรรคว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป
ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีที่ประชุมรัฐสภาใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ไม่ให้มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทจากพรรคก้าวไกล เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขอไม่ก้าวล่วง เพราะต้องรอดูขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ หากรับไว้พิจารณา ก็จะต้องมีระยะเวลาในการดำเนินการ แต่ถ้าไม่รับเรื่องก็จบ
"เท่าที่เห็น มีนักวิชาการอิสระยื่นเรื่องไปก่อนหน้านี้แล้ว และความเห็นประเด็นดังกล่าวมีหลายฝ่าย อย่างนายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มองว่าไม่สามารถยื่นได้ แต่เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินบอกว่ายื่นได้ จึงต้องไปพิจารณาดู ซึ่งไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่ ซึ่งถ้ารับ องค์คณะตุลาการต้องประชุมเพื่อพิจารณา" นายธนกร ระบุ
นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงใน 2 ประเด็น คือ ความขัดแย้งทางการเมือง ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนภายในประเทศ เพราะไม่ต้องการให้หวนกลับไปสู่จุดที่เคยเกิดปัญหาขึ้นมาอีก และในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ที่อยากให้มีรัฐบาลใหม่โดยเร็ว เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไปในสิ่งที่ได้วางรากฐานเอาไว้
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับตนได้เคยบอกว่าหลังเลือกตั้งเสร็จ ควรให้รีบตั้งรัฐบาล แต่พอตั้งรัฐบาลไม่ได้ กลับบอกว่ารออีก 10 เดือนดีกว่า ตนมองว่าไม่ใช่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่เป็นการทำเพื่อตัวเอง หากเป็นแบบนี้ ประเทศเราไม่ไหว เพราะนักธุรกิจเอกชน เขารอรัฐบาลอยู่
"ดังนั้น กลไกการตั้งรัฐบาลถ้าอันดับ 1 ไม่ได้ อันดับ 2 ก็ต้องจัด ถ้าอันดับ 2 ไม่ได้ ก็ต้องเป็นอันดับ 3 เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น วันนี้เมื่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกำลังดีขึ้น จึงมีสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ควรทำต่อในหลายๆ เรื่อง พร้อมย้ำว่าการรอ 10 เดือนไม่ควร ดังนั้นขอให้เห็นแก่ประชาชนแล้วกัน"