นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกระแสข่าวทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า จุดยืนการโหวตนายกรัฐมนตรีของสว.นั้น ยืนยันว่าไม่โหวตสนับสนุนพรรคที่คิดจะแก้ไข มาตรา 112 โดยล่าสุด มีคลิปนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่เคยพูดถึงแนวทางการแก้ไข มาตรา 112 ตอนหาเสียงเลือกตั้ง จึงขอนำคลิปดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาโหวตเลือกนายกฯ ก่อน ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะโหวตเลือกนายเศรษฐาหรือไม่
"แม้ใน MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ระบุเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 และพรรคเพื่อไทย มีจุดยืนไม่แก้ไข มาตรา 112 แต่ติดอยู่ที่นายเศรษฐา เคยพูดตอนหาเสียงจะแก้ไข มาตรา 112 จึงอยากได้ยินคำตอบที่ชัดเจนจากปากนายเศรษฐา ว่ามีความคิดจะแก้ไข มาตรา 112 จริงหรือไม่ เพื่อประกอบการตัดสินใจโหวตนายกฯ" นายเสรี กล่าว
ส่วนกรณีมีกระแสว่า พรรคเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมสนับสนุนได้ และพรรคก้าวไกลก็ยินดีโหวตสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย แต่จะไม่ขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายเสรี กล่าวว่า เคยได้ยินสูตรนี้มาเช่นกัน ถ้าทำได้จริง ก็ไม่ต้องพึ่งเสียง สว.ช่วยโหวตนายกฯ เพราะใช้เสียงสส.อย่างเดียวก็เกิน 376 เสียงแล้ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับพรรคภูมิใจไทยว่าจะโหวตสนับสนุนให้จริงหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้ว หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกฯ แล้ว ไปดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลด้วย ก็ต้องรับผิดชอบที่รับปากแล้ว แต่เปลี่ยนใจภายหลัง
ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวว่า กระแสข่าวสูตรโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค. ที่จะดึงพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยมีพรรคก้าวไกลร่วมโหวตให้ด้วย แต่พรรคก้าวไกลจะไม่ขอเป็นรัฐบาลนั้น จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาลภายหลังโหวตนายกฯ ไปแล้ว ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรที่ดูแล้วไม่ค่อยสบายใจ น่าสงสัย เพราะมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน โดยมองว่า สูตรนี้แม้มีโอกาสจะเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ควรทำ ถ้าหลวมตัวโหวตหนุนไปแล้ว พรรคเพื่อไทยไปจับมือพรรคก้าวไกลในภายหลัง จะยิ่งเกิดความวุ่นวายระดับแผ่นดินไหวรุนแรง
"อยากให้พรรคเพื่อไทย ประกาศให้ชัดเจนก่อนวันโหวตนายกฯ ว่าจะมีพรรคใดร่วมจัดตั้งรัฐบาลบ้าง ถ้ามีความชัดเจนว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมด้วย สว.ก็พร้อมโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ" นายกิตติศักดิ์ กล่าว