นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการประสาน 8 พรรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค.ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้มีการนัดหมายอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 2 ส.ค. โดยคาดว่าจะพิจารณาเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับหรือไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ซ้ำ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไรต่อ, การแก้ไขมาตรา 112 ทางพรรคก้าวไกล จะมีความชัดเจนอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าพรรคก้าวไกลน่าจะทำการบ้านมาแล้ว รวมถึงความคืบหน้าเรื่องหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมือง และ สว. เพราะต่างคนต่างไปพูดคุยกันมาแล้ว ซึ่งจะนำมาอัปเดตกัน
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่จะถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นายวสวรรธน์ กล่าวว่า "ไม่มี ยังเป็น 8 พรรค 312 เสียงอยู่ ยังไม่ได้มีการคุยกันว่าก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านสักที มีแต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกให้ถอย ซึ่งไม่ได้ออกมาเป็นมติ 8 พรรคร่วม"
นายวสวรรธน์ กล่าวว่า การประชุม 8 พรรคร่วมที่ผ่านมา ตนได้เสนอว่าให้ไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แต่ไม่ได้พูดถึงพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็ได้รับฉันทามติจากอีก 7 พรรคให้ไปพูดคุย ซึ่งทางเราไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นพรรคไหน แล้วแต่พรรคเพื่อไทย
"เราให้เกียรติเขาที่จะไปคุยกับพรรคไหน เราไม่ได้ไปบังคับว่าต้องไปเอาใครมา เขาบอกเราว่าเชิญมาพูดคุย ไม่ได้เชิญมาร่วม ไม่ได้อยากให้เอาไปเป็นประเด็นว่าลุงมาด้วยแล้ว พรรคก้าวไกลจะไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะ 8 พรรคยังไม่มีมติตรงนี้เลย 312 เสียง ยังต้องมัดกัน เพราะหากแตกกัน ก็จะไม่มีรัฐบาลจากฝั่งที่ประชาชนคาดหวัง" นายวสวรรธน์ กล่าว