นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสการจัดตั้งรัฐบาลในหลายสูตรที่ออกมาว่า จากการสอบถามความคืบหน้าของทีมเจรจา ทราบเพียงว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ภายใต้ข้อจำกัดที่แต่ละฝ่ายมี ไม่ว่าจะเป็น สส.หรือ สว. ที่ต่างแสดงท่าทีของตัวเองออกมา พร้อมกันนี้ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะประสานทุกอย่างได้ดีที่สุด ภายใต้ข้อจำกัดที่มี และสามารถเดินหน้าประเทศไปได้
ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค.นั้น นายสุทิน ยอมรับว่ากังวลเรื่องศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณารับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ และจะมีคำสั่งให้ชะลอกระบวนการเลือกนายกฯ หรือไม่ หรือจะวินิจฉัยไปในทางใด
ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำได้ ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลว่าจะมีความเห็นอย่างไร แต่หากไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อ คือ เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และมั่นใจว่าจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
ส่วนกรณีที่ สว.ออกมาตั้งคำถามถึงนายเศรษฐา เกี่ยวกับจุดยืนเรื่องมาตรา 112 นั้น นายสุทิน กล่าวว่า นายเศรษฐามีจุดยืนเดียวกับพรรคเพื่อไทย ว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับมาตรา 112 เพราะขณะนี้คือเวลาที่ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน ฟื้นฟูฐานะของประเทศ การจะทำเช่นนี้ได้ต้องสร้างบรรยากาศความสามัคคีของคนในชาติ ลดความขัดแย้งให้สถานการณ์นิ่งพอสมควร จึงจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและฟื้นฟูฐานะการเงินการคลังของประเทศได้ ดังนั้นขอยืนยันว่านายเศรษฐา ไม่มีจุดยืนที่แตกต่างไปจากพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า สว.อยากให้นายเศรษฐา แสดงวิสัยทัศน์ ก่อนโหวตนายกฯ นั้น นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่ประธานรัฐสภาจะอนุญาตหรือไม่ หากสมาชิกอยากให้แคนดิเดตแสดงวิศัยทัศน์ แต่ตามข้อบังคับการประชุมสภา ไม่ได้มีกำหนดไว้ว่าต้องแสดงวิสัยทัศน์ นอกจากนี้นายเศรษฐา มีความต่างจากแคนดิเดตคนอื่น เพราะไม่ได้เป็น สส.
"ในวันโหวต เขาอาจไม่อยู่ในสภาฯ การจะให้นายเศรษฐาแสดงวิสัยทัศน์ จึงต้องขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่มั่นใจว่านายเศรษฐา จะสามารถทำได้ดี หากต้องแสดงวิสัยทัศน์" นายสุทิน กล่าว