นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานที่ประชุม โดยได้หารือถึงประเด็นให้สภาฯ เร่งตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ จำนวน 35 คณะ โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่า ขอให้พิจารณานัดประชุมตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อประชุมแบ่งโควต้า กมธ. สามัญ 35 คณะ โดยไม่ต้องรอให้การจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย เหมือนที่เคยปฏิบัติ
ทั้งนี้ เนื่องจาก สภาผู้แทนราษฎร มีวาระที่ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้น กลไกของกมธ. จะช่วยแก้ปัญหาได้ อีกทั้งกลไกของสภาฯ แยกส่วนจากรัฐบาล ขณะเดียวกัน ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งกับพรรคการเมืองว่า สามารถแบ่งสัดส่วนกมธ. ตามพรรคการเมืองได้
นายสุธรรม แสงประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายคัดค้าน เนื่องจากมองว่ากระบวนการของกมธ. ควรยึดประเพณีหลังจากที่ตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ อย่างไรก็ดี เห็นด้วยกับข้อกังวลของสส. ก้าวไกล แต่มองว่าควรอก่อน
ขณะที่ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ ปี 2562 ซึ่งบังคับใช้แบบอนุโลมมาถึงปัจจุบัน โดยมองว่าควรตั้งกมธ. วิสามัญเพื่อพิจารณาแก้ไขโดยเฉพาะข้อ 90 ว่าด้วยกมธ. สามัญ ว่าจะมีจำนวนกี่คณะก่อน
อย่างไรก็ดี นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มีความเห็นแย้ง มองว่า การบังคับใช้ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวเป็นฉบับถาวร และที่ผ่านมาไม่เคยมีการเสนอแก้ไข หรือเสนอญัตติแก้ไข ดังนั้น มองว่าควรแจ้งให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เร่งนัดประชุมตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อหารือต่อการแบ่งจำนวนกมธ. สามัญให้กับแต่ละพรรคการเมือง
ด้าน นายปดิพัทธ์ แจ้งว่า ตนจะนำประเด็นที่หารือ ทั้งประเด็นการตั้งกมธ. 35 คณะ และการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ แจ้งไปยังประธานสภาฯ เพื่อหาแนวทางต่อไป