นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (กก.) แถลงภายหลังประธานรัฐสภาสั่งปิดประชุม และเลื่อนการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ สว. เลือกนายกรัฐมนตรี ที่พรรคก้าวไกลเสนอว่า การปิดประชุมสภาวันนี้ ทำให้การประชุมสภาในวาระสำคัญก็ไม่ได้ดำเนินการ ทั้งเรื่องการเลือกนายกฯ ซึ่งพรรคยังยืนยันว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีของรัฐสภาดำเนินการไปก่อนได้ โดยไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจเต็มรัฐสภา และยังมีวาระที่ 2 การยกเลิกมาตรา 272 การพิจารณาปิดสวิตช์ สว.ได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะการการเลือกนายกฯ มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง อาจจะยืดเยื้อต่อไปได้ แต่หากมีการพิจารณาในเรื่องนี้ และผ่านวาระที่ 1 ได้ การเลือกนายกรัฐมนตรีจะไม่เดินสู่ทางตัน
"ที่มีการเสนอญัตติวันนี้เพราะเราเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ควรเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีชี้ขาด ควรเป็นอำนาจของรัฐสภาเอง" นายชัยธวัช กล่าว
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยืนยันว่าญัตติที่ สส.พรรคก้าวไกลเสนอให้ทบทวนมติรัฐสภากรณีการเสนอชื่อนายกฯรัฐมนตรีเป็นญัตติที่ถูกต้อง ซึ่งประธานสภาควรเปิดให้สมาชิกรัฐสภาลงมติว่าเห็นชอบหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า ในการประชุมครั้งหน้าจะมีการเสนอญัตตินี้อีก เพราะว่าญัตติยังไม่ได้รับการพิจารณา
นายชัยธวัช กล่าวว่า การเสนอญัตติในวันนี้หรือการแก้ไขมาตรา 272 ไม่ได้ทำเพื่อแคนดิเดทพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่มีผลต่อทุกแคนดิเดทจากทุกพรรค
ส่วนช่วง 2 อาทิตย์ที่รอการโหวตนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยว่าสามารถเสนอชื่อซ้ำได้ก็คงต้องมีการพูดคุยกันกับพรรคการเมืองต่างๆ อีกครั้ง เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
นายชัยธวัช กล่าวว่า ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายสนับสนุนให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานรัฐสภายอมรับว่ามีข้อกังวลว่าการปิดสภาวันนี้(4 ส.ค.) อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สง่างามและถูกมองได้ว่าเพราะเสียงสว. ไม่มากพอหรือไม่ จึงไม่นำไปสู่การลงมติ
ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ สส.ของพรรคพร้อมทำหน้าที่ และการยื่นญัตติวันนี้ มองว่า สามารถใช้กลไกของรัฐสภาหาทางออกได้ ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกระบวนการภายในรัฐสภาเมื่อตัดสินใจอย่างไรไปแล้ว เราสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้โดยใช้อำนาจสภา และเมื่อ สส.ก้าวไกลมีการเสนอญัตติและมีผู้รับรองถูกต้อง ประธานสภาต้องพิจารณาเรื่องนี้ พวกเราไม่มีเจตนาประวิงเวลา เพื่อนำสู่ข้อสรุปเร็วที่สุด และหากสุดท้ายแล้วมติสภาให้ทบทวนจะได้ไม่ต้องเจอเงื่อนไขเลื่อนประชุมออกไป เพราะยังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรในอนาคต ซึ่งความไม่แน่นอนตรงนี้สามารถจัดการได้
ประเด็นที่เสนอวันนี้เป็นการทบทวน ไม่ใช่การเสนอญัตติซ้ำ แต่หากเสนอไปแล้วมีการพิจารณา แล้วสัปดาห์หน้าจะมาเสนอซ้ำอีกแบบนี้จะทำไม่ได้ ซึ่งพรรคสามารถเสนอได้ ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและน่าเสียดายที่การประชุมสภายุติโดยไม่มีข้อยุติใดเลย
"เราทราบมาตั้งแต่ต้นว่าจะมีความพยายามล้มการประชุม ถ้าส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่กระตุ้น ก็คงไม่แห่เข้ามาประชุม แต่การใช้วิชามารแบบนี้คำถามที่ประชาชนตั้งคำถามได้คือประเทศได้อะไรกับการปิดประชุมแบบนี้" นายรังสิมันต์ กล่าว