นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีกระแสข่าวว่าพรรคต่างๆ ไปเจรจาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก ว่า เป็นเพียงข่าวลือ เพราะที่ผ่านมา ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องตำแหน่งแต่อย่างใด มีเพียงการพูดคุยว่า เมื่อพรรคก้าวไกล (กก.) ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะขอให้สนับสนุนรัฐบาลใหม่โดยที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ใช่ว่าจะมาร่วมรัฐบาลอย่างไร แต่ยินดีให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และยินดีให้แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยจะโหวตให้แล้วมาร่วมเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก็ได้โทรศัพท์มาคุยกับตน ซึ่งก็ไม่มีอะไร
"วันนี้ อยากได้เสียงสนับสนุนให้เราเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน หากตรงนี้ชัดเจนแล้ว ขั้นต่อไปเราก็จะเคลียร์ให้ชัดเจนขึ้น" นายภูมิธรรม ระบุ
นายภูมิธรรม ยังแสดงความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เพราะเชื่อมั่นในความสามารถของบุคลากรของพรรค อีกทั้งมีประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา
"ต้องมั่นใจ ถ้าไม่มั่นใจ เราจะดำเนินการมาถึงขั้นนี้หรือ เราเชื่อว่าความตั้งใจ ประสบการณ์ ความสามารถของบุคลากรพรรคเพื่อไทยที่มีอยู่ และผลงานที่เคยทำมาแล้ว เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศที่กำลังวิกฤตอยู่ในขณะนี้ และความขัดแย้งที่สะสมมากว่า 20 ปี เราเชื่อว่าโดยจุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่อยู่กับความเป็นจริง และใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ละมุนละม่อม ประนีประนอม เราจะช่วยกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ และสลายความขัดแย้งไปให้ได้ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุ
ส่วนมีการพูดถึงตำแหน่งรัฐมนตรีกับพรรคต่างๆ นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปกติ จะมีการพูดคุยกันเรื่องตำแหน่งหลังจากที่มีการฟอร์มรัฐบาล และได้นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เสนอเรื่องกระทรวง เราเสนอแค่เรื่องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ที่จะได้นายกรัฐมนตรีเป็นนายเศรษฐา หากเห็นชอบก็ร่วมกันโหวต การที่จะร่วมมือกันอย่างไร จะแบ่งกระทรวงอย่างไร หรือจากกำหนดนโยบายร่วมกันอย่างไรนั้น ต้องมีการพูดคุยหารือกันทุกฝ่าย รวมถึงต้องเคารพพรรคการเมืองต่างๆ
"ขณะนี้ ยังแบ่งกระทรวงไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าจำนวนตัวเลขที่จะจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เนื่องจากมีจำนวนที่ต้องแบ่งเฉลี่ย จนกระทั่งได้สิ่งที่ชัดเจนที่สุด จึงจะมาแบ่งกระทรวงภายหลัง ว่าความจำเป็นเป็นอย่างไร เรายืนยันไปแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ สิ่งที่สำคัญคือนโยบายของพรรคที่จะต้องนำมาปรับนโยบายในส่วนอื่นๆ อะไรที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของเรา หรือไม่สามารถปรับได้ ก็จะทำให้เกิดความร่วมมือกันยาก ฉะนั้น เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นหลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีเป็นที่ชัดเจน" นายภูมิธรรม กล่าว