นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย จะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาในการโหวตครั้งต่อไป ซึ่งต้องให้เวลาตัวแทนพรรคที่ไปเจรจาหาเสียงตั้งรัฐบาล และมองว่า ความล่าช้าออกไปไม่กี่วัน คงไม่กระทบโรดแมปในการตั้งรัฐบาลเข้ามาขับเคลื่อนประเทศ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ส่วนที่ขณะนี้มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ถกเถียงกันว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี และจะมีการพลิกขั้วหรือไม่ แต่สิ่งที่เพื่อไทยกังวลคือ ปัญหาปากท้อง ราคาพลังงานสูงขึ้น รายได้ประชาชนหดหาย หนี้สินครัวเรือน ยาเสพติดระบาด ปัญหาภัยแล้งเอลนิโญ ปัญหาไทยเสียโอกาสในเวทีโลก เด็กหลุดจากระบบการศึกษา การจัดทำงบประมาณประทศ เป็นต้น
นายนพดล กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย คิดตลอดว่าทำอย่างไรจึงจะมีรัฐบาลมาแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด เพราะต้องเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ง่วนกับการตั้งรัฐบาลเพื่อมีอำนาจอย่างเดียว นอกจากนั้นนักธุรกิจ นักวิชาการหลายคนเห็นว่าควรมีรัฐบาลโดยเร็ว ส่วนทางเลือกที่ให้ทอดเวลาไปเกือบปีเพื่อให้ สว.หมดอำนาจโหวตนายกฯ แล้วค่อยให้สภาผู้แทนฯ โหวตนายกฯ นั้น ตนมองว่าน่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี
ส่วนที่มีคนวิจารณ์ท่าทีของพรรคเพื่อไทยมากมายในช่วงนี้ นายนพดล กล่าวว่า เราเคารพความเห็นต่าง สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็นำมาคิดต่อ แต่น่าเสียดายที่บางคนด่าล่วงหน้าไปแล้ว แต่ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
"การตั้งรัฐบาลขณะนี้ไม่ใช่งานง่าย เราไม่ได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ต้องทบทวนสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำมา สส.ของพรรคเห็นชอบโหวตให้คุณพิธาครบ 141 เสียง และโหวตไม่เห็นด้วยกับญัตติที่ไม่ให้เสนอชื่อคุณพิธาเป็นครั้งที่ 2 ครบ 141 เสียง พรรคไม่ได้บิดพลิ้วเลย หลังจากที่พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเราก็ต้องพยายามหาเสียงให้ครบ 375 เสียง ขณะนี้ก็ต้องดำเนินการขอเสียงสนับสนุน ผมขอความเป็นธรรมให้พรรคเพื่อไทยด้วย ว่าพรรคไม่ได้มีทางเลือกมากมาย แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยยึดมั่นประโยชน์ของประเทศ และประชาชนมาก่อนประโยชน์พรรค" นายนพดล กล่าว