นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า จะมีพรรคการเมืองใดมาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นแกนนำบ้างนั้น ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้แถลง เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ มั่นใจว่าขณะนี้ได้เสียงพรรคร่วมรัฐบาลเกิน 250 เสียงแล้ว และไม่ต้องกังวลว่าจะมีรัฐบาลเสียงข้างน้อยเกิดขึ้น
ส่วนเสียงสนับสนุนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้เกิน 375 เสียงนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจให้กับ สส.และ สว. รวมถึงทำให้ข้อกังวลต่างๆ ลดหายไป ซึ่งครั้งก่อน กังวลเรื่องมาตรา 112 แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว และได้แถลงไปชัดเจนว่าไม่มีเรื่องนี้ และเป็นส่วนหนึ่งในการหารือกันว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
"เขาก็บอกแล้วว่า สส.-สว.ต้องช่วยกันหาวิธี หาหนทางให้ผ่านไปสู่ความมั่นคง เพราะตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว" นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาจับมือกับพรรคเพื่อไทย ไม่น่าจะมีปัญหากับ 2 ลุงใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นฝ่ายออกมาจับมือกับพรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยเชิญพรรคภูมิใจไทยไปหารือ และยอมรับแนวทางของพรรคภูมิใจไทยในแถลงการณ์ 3 ข้อได้ ซึ่งก็พร้อมทำงานให้บ้านเมือง ดังนั้นจากนี้ไปต้องหาวิธีการทำงานร่วมกันให้มีรัฐบาลที่มั่นคง และบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้
นายอนุทิน ยังกล่าวด้วยว่า การทาบทามพรรคการเมืองอื่นๆ มาเข้าร่วมรัฐบาล ต้องเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำต้องไปบริหารจัดการ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นแกนนำ เป็นเพียงพรรคร่วมเท่านั้น ส่วนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องเป็นการเสนอจากพรรคแกนนำเช่นกัน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ต้องเห็นชอบตามที่พรรคแกนนำเสนอมา
"หากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ไม่ผ่านการลงมติเพราะติดเงื่อนไข ก็ยังมีแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน" นายอนุทิน กล่าว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงพฤติการณ์ของกลุ่มทะลุวังเมื่อวานนี้ว่า ไม่สมควร หากไม่พอใจอะไรกันต้องพูดด้วยเหตุด้วยผล แต่การใช้ถ้อยคำหยาบคาย และเป็นถ้อยคำที่ไม่ได้เคารพผู้ที่มีอาวุโสสูงกว่า ดูแล้วไม่ใช่ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีของคนไทย
"การเคารพผู้หลักผู้ใหญ่เป็นเอกลักษณ์ของเราอย่างหนึ่ง เป็นซอฟต์พาวเวอร์ อยากให้รักษาไว้...การพูดจากัน ก็ต้องพูดกันดีๆ ถ้าพูดกันแบบมีอารมณ์ ทุกคนมีอารมณ์หมด เพียงแต่ใครจะควบคุมได้มากกว่า แต่มันจะไม่ก่อให้เกิดความก้าวหน้า เพราะทุกคนจะต้องตั้งการ์ด ยกการ์ดกันอย่างสูง" นายอนุทิน กล่าว
พร้อมกับฝากไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงสถานการณ์ที่มีผู้ชุมนุมปิดล้อมพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์คุกคามแบบนี้ คงไม่ต้องรอให้ไปแจ้งความก่อน แต่ตำรวจควรต้องรักษาความสงบ ไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น
"ที่บอกว่าไม่มีใครไปแจ้งความ ก็เพราะมันออกไปไม่ได้ จะแจ้งความได้อย่างไร และเราไม่ได้ต้องการแจ้งความ แต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบ ไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น" นายอนุทิน กล่าว