น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการว่า รัฐบาลตระหนักถึงการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้ทุกกลไกสามารถขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุดหรือเกิดสุญญากาศ โดยระมัดระวังในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยความรอบคอบและรอบด้าน สิ่งใดทำได้ และสิ่งใดทำไม่ได้ บนหลักการของความจำเป็นเร่งด่วน ที่สำคัญยึดประโยชน์สูงสุดในการดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช้การเมืองนำ
ทั้งนี้ เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 (2) กำหนดไว้ว่า ไม่แต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตำแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน
ดังนั้น การแต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงขณะที่ยังไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น มีแนวทางให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงในการแต่งตั้งปลัดกระทรวงในสังกัดที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในขณะนี้ สามารถเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงคนใหม่เพื่อมาทำหน้าที่แทนปลัดกระทรวงที่เกษียณอายุเสนอเข้ามาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ แต่สามารถแต่งตั้งได้เฉพาะปลัดกระทรวงที่จะเกษียณเท่านั้น ไม่สามารถแต่งตั้งอธิบดีในกรมต่างๆ ที่จะเกษียณอายุราชการ
โดยรายชื่อปลัดกระทรวงที่ผ่านการเห็นชอบจาก ครม.แล้ว จะส่งต่อไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 169 (2) ต่อไป ซึ่งที่สุดแล้ว ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต. ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ และอย่าหวาดระแวงใดๆ
"หากมีการเสนอชื่อโยกย้ายที่เป็นไปตามกฎหมาย และผ่านกลไกต่างๆ ที่ถูกต้องมายัง พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะมีดำเนินการตามกรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมารยาท และธรรมเนียมปฏิบัติ โดยไม่มีวาระแอบแฝงอื่นใด นอกเหนือไปจากประโยชน์ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด จึงพยายามระมัดระวังไม่ให้การดำเนินการใดๆ หรือละเว้นการดำเนินการ จนกลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นฟูประเทศ เพื่อส่งต่อให้กับรัฐบาลชุดใหม่" น.ส.ทิพานัน กล่าว