นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในส่วนของพรรคว่าสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลเป็นภาระหน้าที่ของพรรคแกนนำ ไม่ไปก้าวล่วงว่าจะมีพรรคการเมืองใดเข้าร่วมหรือไม่ร่วมเพราะถือว่าเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของแต่ละพรรคการเมืองย่อมมีเหตุและผลที่แตกต่างกัน และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีการพูดคุยกันในเรื่องร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด
ขณะนี้พรรคเน้นจุดเริ่มต้นการทำงานเชิงรุกในสภาผู้แทนราษฏรเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด การนำปัญหาไปพูดเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในสภาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคือหน้าที่หลักอันสำคัญ รวมไปถึงการนำเสนอร่างกฎหมาย ควบคู่ไปกับการผลักดันร่างกฎหมายที่พรรคได้ยื่นต่อสภาชุดที่ผ่านมา 19 ฉบับ ที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในสภาชุดนี้ผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ เช่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ที่มีความจะทำให้คดีทุจริตมีการลดโทษได้ยากขึ้น เป็นมาตรการที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายราเมศกล่าวต่อว่า ในส่วนของการเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยังไม่ได้มีการกำหนดนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการเพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่ แต่อย่างใด แต่ขอย้ำว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการยังคงทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์
นายราเมศกล่าวถึง เรื่องเลือกตั้งซ่อม เขต3 จังหวัดระยองว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกฎหมายคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ส่งรายชื่อผู้แสดงเจตจำนงค์หนึ่งเดียวที่มีคุณภาพมีความรู้ความสามารถคือ นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ กลับไปรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคในเขต 3 หลังจากนั้นก็จะได้ขอมติส่งผู้สมัครต่อคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป เลือกตั้งซ่อมพรรคจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เชื่อมั่นในตัวผู้สมัครที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ เอาใจใส่ปัญหาของประชาชน มีประสบการณ์เป็นปากเป็นเสียงในสภาผู้แทนราษฏรได้เป็นอย่างดี