นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน เปิดเผยว่า การประชุม กมธ.เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) ได้พิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดใน บมจ.แสนสิริ (SIRI) ว่ามีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดินย่านสารสินหรือไม่
โดย กมธ.ได้ทำหนังสือขอเอกสาร และข้อมูลจากกรมที่ดิน เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ไปแล้ว แต่เนื่องจากติดวันหยุดยาว ทำให้กรมที่ดินไม่สามารถจัดส่งเอกสารได้ทันการพิจารณาของ กมธ. ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างเร่งด่วนแล้ว ขณะเดียวกัน กมธ.ได้นำข้อมูลที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ที่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณชนมาพิจารณา รวมถึงข้อมูลล่า สุดกรณีใช้นอมินีทำนิติกรรมเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่ดินด้วย ซึ่งขณะนี้ กมธ.ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ขอดูเอกสารและรายละเอียดที่มีให้ครบถ้วนก่อน
"ตอนนี้ กมธ. ยังไม่สรุปว่านายเศรษฐา เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้าม และมีความเหมาะสม หรือไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ เพราะไม่ต้องการพูดไปล่วงหน้า ขอดูรายละเอียดเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงคำชี้แจงของบริษัท แสนสิริ ด้วย ขณะที่นายเศรษฐานั้น กมธ.คงไม่เชิญมาชี้แจง เพราะเป็นประเด็นสาธารณะที่เจ้าตัวมีสิทธิจะชี้แจง หรือไม่ชี้แจงต่อสาธารณะก็ได้" นายเสรี กล่าว
ส่วนทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี หลังจากพรรคก้าวไกลมีมติไม่โหวตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยนั้น นายเสรี กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่ไว้ใจได้ แม้พรรคก้าวไกลจะแถลงไม่โหวตให้ แต่ในข้อเท็จจริง จะต้องพิจารณาในวันประชุมรัฐสภาที่กำหนดโหวตนายกฯ อีกครั้ง และอย่างที่ตนเคยพูดไปว่า การเสนอชื่อแคนดิเดทนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ท้ายสุดอาจไม่ใช่นายเศรษฐาก็ได้ ดังนั้นต้องรอดูวันสุดท้าย
ส่วนที่การโหวตนายกฯ ตอนนี้ต้องอาศัยเสียง สว.โหวตให้ถึงเกณฑ์ 375 เสียง หาก สว.ยังแคลงใจนายเศรษฐา จะเป็นการบีบให้เปลี่ยนตัวหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า "สว.ไม่เกี่ยว จะบีบอะไรได้อย่างไร เงื่อนไขที่ สว.จะใช้พิจารณาขณะนี้ เป็นแรื่องที่นอกเหนือจากคุณสมบัตินายเศรษฐา เพราะต้องดูนโยบาย และทิศทางของการนำประเทศ ซึ่งขณะนี้ดูแล้วว่าพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายทำประชามติแก้รัฐธรมนูญ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง อาจทำให้ประเทศศยุ่งยาก วุ่นวาย รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายแจกเงินดิจิทัล ซึ่งทั้งหมด ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ชื่อของนายเศรษฐา ไม่น่าจะผ่านไปได้"
สำหรับการโหวตนายกฯ นั้น นายเสรี เชื่อว่ายังไม่นิ่ง เพราะพรรคที่ตกลงเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่สามารถตกลงกัน ดังนั้นในส่วนของ สว.ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจะยอมรับและโหวตนายกฯ ได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่