"หมอชลน่าน" เสนอชื่อ "เศรษฐา" เป็นนายกฯ ให้รัฐสภาลงคะแนน

ข่าวการเมือง Tuesday August 22, 2023 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยระยุว่านายเศรษฐาเป็นผู้เหมาะสม ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม และเป็นผู้ที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอรายชื่อผู้ที่สมควรได้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ตามมาตรา 88 โดยมีผู้รับรอง 287 เสียง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า ถือว่า นายเศรษฐา ได้รับรองถูกต้อง เพราะการรับรองต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 50 เสียง ก่อนจะมีการเปิดให้อภิปรายก่อนจะลงคะแนน

จากนั้น ประธานรัฐสภา ได้เปิดให้มีการอภิปรายคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้าม ของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อตามสมควร ซึ่งในการประชุมวิป 3 ฝ่ายได้ตกลงเวลาของการอภิปราย คือ สว. 2 ชม. สส. 3 ชม. พรรคก้าวไกลของครึ่งชม. ส่วนเวลาที่เหลือให้ สส.และสว.ตกลงกันเองภายใน 2 ชั่วโมง

*สว. ห่วงปมแก้รธน.-คุณสมบัติ

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว. อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทย มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญทันทีที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ดังนั้น อยากถามว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 60 มีปัญหาอะไรให้เร่งแก้ไข เป็นเพราะรัฐธรรมนูญนี้ มีกลไกป้องกันนักการเมืองทุจริตอย่างเข้มงวดใช่หรือไม่ เพราะหากมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กลไกขจัดนักการเมืองทุจริตจะหายไป สอดคล้องความต้องการบางพรรคการเมืองที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญหมวดสถาบัน การแบ่งแยกราชอาณาจักร

ทั้งนี้ มองว่าการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญใหม่ จะยิ่งสร้างความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น เพราะการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างอำนาจองค์กรอิสระ ลบล้างความผิดให้นักการเมืองทุจริต เพิ่มประเด็นความขัดแย้งมากขึ้น จะกระทบความมั่นคงชาติร้ายแรงมากกว่าการแก้มาตรา 112 ดังนั้นจะสนับสนุนนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร

ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. อภิปรายว่า สว.ควรใช้อำนาจเลือกนายกฯ อย่างมีขอบเขต การให้ความเห็นชอบนายกฯ วันนี้เห็นควรกลับคืนสู่หลักการทั่วไปคือ ให้เป็นไปตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร เพราะแคนดิเดทนายกฯ ที่ได้รับการเสนอชื่อไม่มีหลักคิดเป็นอันตราย

ส่วนการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะถือเป็นภยันอันตรายหรือไม่นั้น เห็นว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเกือบทุกพรรคการเมือง การจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.นัดแรก เห็นชอบการทำประชามติ ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะการทำประชามติและการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เคารพผลการลงประชามติ แต่เพื่อความสบายใจของรัฐสภาและประชาชน ควรชี้แจงให้ชัดเจนเพื่อสร้างความสบายใจว่า ร่างแก้รัฐธรรมนูญนั้น ควรรับฟังความเห็นจากทุกพรรค และ สว. ผ่านการพูดคุยให้มากสุด และรูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่จะเกิดขึ้น ต้องผ่านความเห็นจากสภาฯ ก่อน รวมถึงทบทวนระยะเวลาทำประชามติจะเป็นประโยชน์ ถ้าทำได้ก็จะให้ความเห็นชอบนายกฯ ตามเสียงข้างมาก

นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร สว. อภิปรายว่า เวลา สว. จะเลือกนายกฯ ก็เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งระบุว่าผู้ที่จะถูกเลือกต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง ต้องมีจริยธรรมเป็นเลิศ แต่ขณะนี้นายเศรษฐาถูกโจมตีตลอด ทำการค้าไม่ถูกต้อง เลี่ยงภาษีบ้างอะไรบ้าง

"เราพยายามหาข้อมูลว่าเป็นจริงหรือไม่ หรือแค่ถูกกล่าวหา หรือเป็นคนดี แต่พวกเราไม่ทราบจริงๆ แล้วจะไปเลือกได้อย่างไร จะเอาประเทศมาเสี่ยง เลือกคนๆหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรมาปกครองประเทศ เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน เอาเศรษฐกิจ เอาประเทศชาติ เอาความเจริญมาเป็นประกัน แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นประกันหรือ ผมฟังแล้วมีความรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง" นายวิวรรธน์ กล่าว

ดังนั้นการเลือกนายกฯ ครั้งนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ประเทศชาติจะเจริญได้ต้องเลือกคนซื่อสัตย์สุจริต มีจริยธรรม ตนเชื่อว่าสว.ทุกคนในที่นี้ มีสิทธิ์เลือก มีจริยธรรมทุกคน ถ้ารู้ข้อเท็จจริงแบบนี้เขาพิจารณาได้ว่าจะเลือกหรือไม่

"ผมได้ยินข่าวไม่ดีว่ามีการแจกกล้วยให้สว. ขอพูดตรงๆว่าเป็นคนดีๆไม่ชอบ อยากจะเป็นลิง อยากจะไปกินกล้วยชาวบ้านเขา ผมว่าผิดคำสาบาน ต่อไปจะโดนลงโทษ" นายวิวรรธน์ กล่าว

ด้านนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังสังคมใหม่ อภิปรายว่า นายเศรษฐา มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ข้อครหาเรื่องการเลี่ยงภาษีที่ดิน โดยการแยกโอนการซื้อขายที่ดินเป็นรายวัน รายบุคคล ไม่ใช่การทำผิดกฎหมาย แต่ระเบียบของกรมที่ดินในการเสียภาษีสามารถจะทำได้

ส่วนที่หลายคนบอกว่าไม่รู้จักนายเศรษฐานั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะตลอดการเลือกตั้ง แคนดิเดทนายกฯ ทุกพรรคได้แสดงวิสัยทัศน์มาตลอด จะไม่รู้จักได้อย่างไร พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนเลือกตั้งจากประชาชน 10 ล้านเสียง ถือว่าผ่านการตรวจสอบจากประชาชนมาแล้ว จึงมีความเหมาะสมเป็นนายกฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ